net-zero

‘กฟภ.’ ดัน 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ Smart Grid ตอกย้ำเมืองสีเขียว

In Brief

  • กฟภ. พัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าสู่ Digital Grid เพื่อรองรับพลังงานสะอาดและมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ
  • เดินหน้า 3 โครงการนำร่อง Smart Grid ได้แก่ Microgrid ในพื้นที่ห่างไกล, ระบบ Off-Grid ที่เกาะพะลวย และการสนับสนุนโรงไฟฟ้าชุมชน
  • โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ลดการสูญเสียในระบบ และส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนเมืองสีเขียวอย่างยั่งยืน

นายพงศกร ยุทธโกวิท รองผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เปิดเผยในงานสัมมนา A Call for Adaptation The Sustainability in Trade & Industry” จัดโดย กรุงเทพธุรกิจ ร่วมกับ Sustainability Expo 2025 หรือ SX ช่วง Collab Talk: Infrastuckture for Green City ว่า นโยบายหลักของ กฟภ. มุ่งเป้าไปที่ Carbon Neutrality ของประเทศ โดยวางยุทธศาสตร์พัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าไปสู่ Digital Grid เพื่อให้ระบบมีความฉลาดและยืดหยุ่นสูง รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคพลังงานสะอาด

‘กฟภ.’ ดัน 3 บิ๊กโปรเจ็กต์ Smart Grid ตอกย้ำเมืองสีเขียว

ทั้งนี้เบื้องหลังความสำเร็จของการบริหารจัดการพลังงานใน Smart City คือ ข้อมูลการพัฒนาสู่ Digital Grid มีเป้าหมายเพื่อให้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์

และนำไปใช้บริหารจัดการพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด (Efficiency) รวมถึงรับมือกับพลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์ ที่มีลักษณะ ควบคุมไม่ได้ (Intermittent)
 

อย่างไรก็ดีในปัจจุบันกฟภ.ได้มีการนำร่อง Smart Meter ที่พัทยา จังหลวัดชลบุรี โดยเป็นการติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะเพื่อเก็บและวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้พลังงานของผู้ใช้ไฟอย่างละเอียด เพื่อนำมาบริหารจัดการพลังงาน

ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลจะช่วยให้ทราบว่าส่วนใดใช้พลังงานเกินความจำเป็น หรือส่วนใดต้องการพลังงาน เช่น การใช้ข้อมูลจำนวนคนในพื้นที่เพื่อปรับการควบคุมอุณหภูมิของอาคาร

“มองว่าสิ่งสำคัญเร่งด่วนที่สุดคือการมีเป้าหมายเดียวกัน (Common Goal) ในการพัฒนาเมืองที่คนอยู่ได้อย่างแท้จริงต้องเป็นเมืองที่เดินได้ เพราะเมืองที่ดีคือเมืองที่คนอยู่ได้โดยไม่เร่งรีบ ซึ่งหมายถึงการออกแบบที่สนับสนุนให้ผู้คนสามารถ เดินหรือปั่นจักรยาน ได้สะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มของเมืองใหญ่ทั่วโลกที่พยายามลดพื้นที่ถนน” นายพงศกร กล่าว 

นอกจากนี้การมีสุขภาวะที่ดีจะส่งเสริมให้คนออกมาเดินมากขึ้นจะช่วยให้ร่างกายและเมตาบอลิซึมดีขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับคนในเมือง ไม่ใช่แค่การอยู่ในห้องปรับอากาศตลอดเวลา 

สำหรับ 3 โครงการนำร่อง สร้างความมั่นคงในพื้นที่ห่างไกล โดยกฟภ. ได้เริ่มโครงการนำร่องเพื่อทดสอบเทคโนโลยี Smart Grid เพื่อเรียนรู้และเตรียมพร้อมขยายผลในวงกว้าง ดังนี้

1.Microgrid สร้างความมั่นคงในการจ่ายไฟในพื้นที่ห่างไกลที่อาจได้รับผลกระทบจากโครงข่ายหลัก โดยนำพลังงานทดแทนและ ระบบกักเก็บพลังงาน (Battery Energy Storage) มาติดตั้งร่วมกัน เช่น ที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน และ อ.เบตง จ.ยะลา
 

2.Off-Grid ที่เกาะพะลวย ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบจ่ายไฟฟ้าที่ไม่เชื่อมต่อกับโครงข่ายหลักเลย โดยใช้พลังงานสะอาดจากโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ทั้งหมด เพื่อเป็นต้นแบบของความยั่งยืน

3.การสนับสนุนโรงไฟฟ้าชุมชน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาพื้นที่ที่เหมาะสมที่สุดในการเชื่อมต่อโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน (300 ชุมชน/500 เมกะวัตต์) โดยต้องเป็นพื้นที่ที่มีช่องว่างในการเชื่อมต่อโครงข่ายและอยู่

ใกล้กับจุดที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง (Load) เพื่อลดการสูญเสียพลังงาน (Loss) แม้ปกติจะเน้นการฟื้นฟูระบบ (Restore) แต่ในอนาคตระบบไฟฟ้าต้องปรับไปสู่ความยืดหยุ่น (Resilience)

ขณะที่ผู้ใช้กลายเป็นผู้ผลิต (Prosumer) โดย Digital Grid จะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำให้ระบบของการไฟฟ้าและระบบของผู้ผลิตรายย่อยสามารถ "ทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน" (Harmonize) ได้ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนยังเข้าถึง ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็น เช่น ไฟฟ้าสำหรับ เครื่องมือทางการแพทย์ ในภาวะวิกฤตได้

อย่างไรก็ดีการบริหารจัดการแบบบูรณาการ ซึ่งการร่วมมือกับโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ เช่น วัน แบงค็อก หรือการแชร์ ระบบทำความเย็นรวมศูนย์ (District Cooling) ระหว่างอาคารหรือระบบรถไฟฟ้า (BTS/MRT) จะช่วยลดภาระการสำรองกำลังผลิตขนาดใหญ่ของการไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานโดยรวม ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการลดคาร์บอน