net-zero

บราซิลเร่งทุกประเทศยื่น แผนลดคาร์บอนก่อนเส้นตาย ปูทางสู่ COP30

บราซิลออกคำเรียกร้องเร่งด่วนให้ประเทศต่าง ๆ ยื่นแผนลดการปล่อยคาร์บอน (NDCs) ก่อนเส้นตายเดือนกันยายน เพื่อจัดทำรายงานสังเคราะห์ก่อนการประชุม COP30

บราซิลออกคำเรียกร้องเร่งด่วนให้ทุกประเทศนำเสนอแผนระดับชาติเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศฉบับใหม่หรือที่เข้มแข็งขึ้น ในความพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อให้ทันเส้นตายสำคัญในเดือนกันยายน

จนถึงขณะนี้มีเพียง 28 ประเทศเท่านั้นที่ได้ยื่นข้อเสนอการลดการปล่อยคาร์บอนต่อสหประชาชาติ โดยในกลุ่มนี้ยังไม่รวมประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกขนาดใหญ่ เช่น จีน และสหภาพยุโรป ที่ยังไม่ได้ยื่นแผน

บราซิลซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดด้านสภาพภูมิอากาศแห่งสหประชาชาติ COP30 ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ได้ออกหมายเรียกเชิญรัฐบาลทุกประเทศเข้าร่วมการประชุมสำคัญในวันที่ 25 กันยายน ซึ่งจะจัดขึ้นข้างเคียงการประชุมสมัชชาใหญ่ประจำปีของสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ก ทั้งนี้ สหประชาชาติจำเป็นต้องได้รับแผนของชาติสมาชิกทั้งหมด

ซึ่งเรียกว่า “Nationally Determined Contributions – NDCs” ภายในวันดังกล่าว เพื่อรวบรวมเป็น “รายงานสังเคราะห์” ที่จะแสดงให้เห็นว่าทั่วโลกยังห่างไกลเพียงใดจากเป้าหมายสำคัญในการจำกัดภาวะโลกร้อนให้อยู่ที่ 1.5 องศาเซลเซียสเหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม

อังเดร โกร์เรอา ดู ลาโก นักการทูตบราซิลอาวุโสซึ่งจะทำหน้าที่ประธานการประชุม COP30 ได้ส่งจดหมายถึงรัฐบาลต่าง ๆเพื่อกระตุ้นให้ยื่น NDCs ที่มีความทะเยอทะยาน และเตือนว่าหากแผนไม่เข้มแข็งเพียงพอ ก็จะต้องมีการดำเนินการเพิ่มเติมในที่ประชุม Cop30

เขาเขียนไว้ว่า “NDCs ของเราไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศสำหรับปี 2035 เท่านั้น แต่ยังเป็นวิสัยทัศน์ร่วมของอนาคตที่เราจะแบ่งปัน พวกมันคือเครื่องมือแห่งความร่วมมือ ที่จะช่วยให้เราบรรลุวิสัยทัศน์นี้ร่วมกัน หากภาพที่สะท้อนจาก NDCs ออกมาอย่างน่าผิดหวัง นั่นคือความรับผิดชอบร่วมกันของเราที่จะต้องเปลี่ยนมันให้กลายเป็นภาพที่จะสร้างโลกที่น่าอยู่อาศัย ปกป้องเศรษฐกิจทั้งหมด และยกระดับคุณภาพชีวิตและโอกาสของผู้คนทุกชนชาติ ทุกเจเนอเรชัน”

บราซิลได้เพิ่มการดำเนินการทางการทูตอย่างเข้มข้นขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากแนวโน้มของการประชุม Cop30 ดูจะยากลำบากมากขึ้น ประธานาธิบดีลูอิซ อีนาซีโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิล ได้หารือทางโทรศัพท์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยมีประเด็นสภาพภูมิอากาศเป็นวาระสำคัญ

ดู ลาโก กล่าวว่า “เรามั่นใจมากว่าจีนจะเผยแพร่ NDCs ที่มีความทะเยอทะยานทันเวลาก่อนรายงานสังเคราะห์ เรามีความมั่นใจสูงว่าจีนกำลังให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับการดำเนินการครั้งนี้”

การประชุมปรึกษาหารือของประธานที่นัดในวันที่ 25 กันยายนนี้ นับเป็นสิ่งใหม่ เนื่องจากโดยปกติการประชุมลักษณะนี้จะจัดขึ้นเฉพาะในช่วงท้ายของการประชุม Cop เท่านั้น และจะตามมาด้วยการประชุมอีกครั้งในวันที่ 15 ตุลาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อหลีกเลี่ยงการชะงักงันที่เคยเกิดขึ้นในการประชุมด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติครั้งก่อน ๆ ซึ่งการเจรจาไม่สามารถเริ่มได้ตรงเวลาเนื่องจากมีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุม

อย่างไรก็ตาม การเตรียมการของการประชุม Cop30 ก็กำลังเผชิญกับปัญหา ท่ามกลางสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่ย่ำแย่ลง โดยยิ่งตอกย้ำด้วยการต้อนรับอย่างสมเกียรติของโดนัลด์ ทรัมป์ ต่อวลาดิเมียร์ ปูติน ที่อลาสก้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถอนสหรัฐออกจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่สงครามของปูตินในยูเครนกลับสร้างผลประโยชน์ครั้งใหญ่แก่กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ

บราซิลเองก็เผชิญกับอุปสรรคที่เกิดจากการตัดสินใจภายในประเทศ รวมถึงการเลือกสถานที่จัดประชุมที่เมืองเบเลง เมืองเล็ก ๆ ริมปากแม่น้ำอเมซอน ประเทศกำลังพัฒนาและกลุ่มภาคประชาสังคมต่างแสดงความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนโรงแรมและที่พัก รวมถึงราคาที่พักที่สูงเกินจริง และยังมีข้อสงสัยว่า สนามบินของเบเลงจะมีความสามารถและความปลอดภัยเพียงพอหรือไม่สำหรับการรองรับบรรดาผู้นำโลกที่ได้รับเชิญ

โดยปกติแล้ว เบเลงมีห้องพักโรงแรมประมาณ 18,000 ห้อง ขณะที่คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมการประชุม Cop30 ราว 50,000 คน รัฐบาลบราซิลได้ว่าจ้างเรือสำราญขนาดใหญ่ 2 ลำให้จอดเทียบท่าที่เบเลงเพื่อรองรับผู้เข้าร่วมราว 6,000 คน และเปิดแพลตฟอร์มให้ชาวเมืองเบเลงปล่อยเช่าห้องและอพาร์ตเมนต์ อย่างไรก็ตาม ราคาห้องพักถูกที่สุดอยู่ที่ประมาณ 400 ดอลลาร์ต่อคืนตลอดช่วง 2 สัปดาห์ของการประชุม ขณะที่หลายโรงแรมตั้งราคามากกว่า 1,000 ดอลลาร์ต่อคืน ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายมหาศาลสำหรับประเทศเปราะบางหลายประเทศที่สามารถส่งผู้แทนได้เพียงไม่กี่คน เมื่อเทียบกับประเทศผู้ปล่อยก๊าซรายใหญ่ที่สามารถส่งเจ้าหน้าที่ได้หลายสิบคน กลุ่มภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนยังได้เตือนด้วยว่าพวกเขากำลังถูกกีดกันออกจากงานนี้

อานา โทนี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการประชุม Cop30 กล่าวว่า “ราคาที่พักเริ่มลดลงแล้วและเราคาดว่าจะลดลงต่อไป”

นอกจากนี้ บราซิลยังได้ยอมอ่อนข้อสำคัญต่อประเทศอื่น ๆ เกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุม Cop30 แม้ว่า NDCs จะมีความสำคัญต่อการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศโลก แต่เดิมบราซิลยืนยันว่าจะไม่ให้เป็นหัวข้อหลักของการประชุม Cop30 เนื่องจากคาดว่าจะได้ข้อยุติก่อนการประชุม และจะไม่ถูกนำมาเจรจาอีก

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าการหารือเกี่ยวกับ NDCs และผลกระทบของมันจะเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติตามข้อตกลงปารีส ดู ลาโก กล่าวว่าจะเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายหารือในประเด็นสำคัญทั้งหมด “บางประเด็นที่สาธารณชนทั่วไปคาดหวังว่าจะได้ถกเถียงกันมากขึ้นในการประชุม Cop ไม่ได้ถูกรวมไว้ในระเบียบวาระ ดังนั้นสิ่งที่เราต้องการทำคือให้แน่ใจว่าเรากำลังจัดการกับประเด็นเหล่านั้น ที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมองว่าสำคัญ มีการถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับความเชื่อมั่นในการเจรจาเหล่านี้ และผมเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าความโปร่งใสคือสิ่งจำเป็น”