OPPO ในฐานะแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 4 ของโลกติดต่อกัน 4 ปี และมีการดำเนินงานใน 70 ประเทศทั่วโลก OPPO ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเติบโตทางธุรกิจสามารถเดินไปพร้อมกับความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมได้ หลังจากประกาศเป้าหมายปี 2023 ให้ลดการปล่อยคาร์บอนสูงสุดภายในปี 2024 และมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 OPPO ได้ประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรผลิตภัณฑ์
OPPO ได้นำแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์จนถึงการบรรจุภัณฑ์ โดยในปี 2024 ได้เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์น้ำหนักเบาสำหรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ช่วยลดการใช้กระดาษ 10 ตันต่อหนึ่งล้านเครื่อง เทียบเท่าการรักษาต้นไม้ 200 ต้น
นอกจากนี้ บริษัทยังนำวัสดุรีไซเคิลจากกากพืช เช่น อ้อยและไม้ไผ่ มาใช้ในกล่องบรรจุภัณฑ์ โดยในตลาดยุโรปเพิ่มสัดส่วนวัสดุรีไซเคิลจาก 45% เป็น 55% พร้อมทั้งพัฒนาความทนทานของผลิตภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี Damage-proof 360° Armour Body
เทคโนโลยี AI เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ด้วยพันธกิจ "เทคโนโลยีเพื่อมนุษยชาติ ความดีงามเพื่อโลก" OPPO มีสิทธิบัตรมากกว่า 113,000 ฉบับทั่วโลก โดย 91% เป็นสิทธิบัตรการประดิษฐ์ บริษัทได้นำฟีเจอร์ AI มาใช้ในสมาร์ทโฟนทุกรุ่น ทำให้ผู้ใช้ 50 ล้านคนทั่วโลกได้ใช้งานฟีเจอร์ AI มากกว่า 100 รายการ
ที่น่าสนใจคือการพัฒนาฟีเจอร์ช่วยการเข้าถึงสำหรับผู้พิการ เช่น การแปลงคำพูดเป็นข้อความแบบเรียลไทม์ การขยายเนื้อหา และการปรับสีหน้าจอ รวมถึงฟีเจอร์ "Health Insights" บนสมาร์ทวอทช์ที่ใช้ AI วิเคราะห์สัญญาณชีพและประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพได้อย่างแม่นยำ
การมีส่วนร่วมเพื่อสังคมโลก
ในปี 2024 OPPO บริจาคเงินกว่า 450 ล้านหยวนสำหรับกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านโครงการ Culture in a Shot Initiative ร่วมกับ Discovery Channel เพื่อนำเสนอความหลากหลายทางวัฒนธรรม และการร่วมมือกับ UNESCO บริจาคแท็บเล็ต 1,000 เครื่องสนับสนุนการศึกษาในแอฟริกาและเอเชีย
ในฐานะพันธมิตรอย่างเป็นทางการของ UEFA Champions League OPPO ได้สนับสนุนการพัฒนาวงการฟุตบอลผ่านการปรับปรุงสนาม การบริจาคอุปกรณ์ และหลักสูตรฝึกอบรมมืออาชีพให้เยาวชนนักฟุตบอลในหลายประเทศ
OPPO ยืนยันความมุ่งมั่นในการเป็นองค์กรที่ยั่งยืน พร้อมเดินหน้าสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบนิเวศที่แข็งแกร่งร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้โลกใบนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง