In Brief
เมื่อวันจันทร์ในช่วงบ่าย (27 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น พายุเฮอริเคนเมลิสซามีกำลังลมคงที่สูงสุดถึง 175 ไมล์ต่อชั่วโมง (282 กิโลเมตรต่อชั่วโมง) โดยเคลื่อนตัวอย่างช้าเข้าหาจาเมกา และอาจกลายเป็นพายุที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเกาะแคริบเบียนแห่งนี้
ต่อมา ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ (NHC) ระบุว่า เมลิสซาเป็นพายุ “ระดับหายนะ” ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตามมาตราสเกลแซฟเฟอร์-ซิมป์สัน โดยคาดว่าจะเคลื่อนผ่านจาเมกาในคืนวันจันทร์หรือตอนเช้าวันอังคาร (28 ตุลาคม) ต่อด้วยการเคลื่อนข้ามทางตะวันออกของคิวบาในคืนถัดมา และเข้าสู่บาฮามาสรวมถึงหมู่เกาะเติร์กส์แอนด์เคคอสภายในวันพุธ
นักพยากรณ์ของ NHC ระบุว่า การเคลื่อนตัวช้าของเมลิสซาเหนือผืนน้ำแคริบเบียนที่มีอุณหภูมิสูงผิดปกติ เป็นปัจจัยที่ทำให้พายุขยายขนาดและเพิ่มความรุนแรงขึ้นอย่างมาก ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้จาเมกาเผชิญกระแสลมระดับหายนะและฝนตกหนักสูงสุดถึง 3 ฟุต เป็นเวลาหลายวัน
ขอบเขตของลมจากเมลิสซามีระยะกว้างกว่าความยาวทั้งเกาะของจาเมกา ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับรัฐคอนเนตทิคัตของสหรัฐฯ และมีสนามบินหลักตั้งอยู่ใกล้ระดับน้ำทะเลอย่างมาก
แม้มีการเตือนภัยอย่างต่อเนื่อง แต่ประชาชนบางส่วนให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ว่า ยังคงลังเลที่จะอพยพออกจากบ้านเพราะกลัวการปล้นสะดม ขณะที่เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่ามีรถบัสเตรียมพร้อมรับประชาชนกว่า 28,000 คน ที่อยู่ในพื้นที่อพยพภาคบังคับ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ไม่มีโครงสร้างพื้นฐานใดในภูมิภาคนี้ที่สามารถทนพายุระดับ 5 ได้
นายกรัฐมนตรีแอนดรูว์ โฮลเนส ของจาเมกา กล่าวว่า รัฐบาลได้เตรียมพร้อมรับมือเต็มที่ ด้วยงบประมาณฉุกเฉินมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งเงินประกันภัยและวงเงินสินเชื่อสำหรับซ่อมแซมความเสียหาย ซึ่งคาดว่าจะมากกว่าพายุเฮอริเคนเบริลที่ถล่มเมื่อปีที่แล้ว
พายุเบริล (Beryl) เป็นพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่ก่อตัวขึ้นในปี 2024 ถือเป็นพายุเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่เกิดเร็วและแรงที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ถึงระดับ 5 โดยนักวิทยาศาสตร์เตือนว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศซึ่งทำให้อุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้น กำลังเร่งให้พายุมีความรุนแรงมากขึ้นและทวีความเร็วในการก่อตัว
โจนาธาน พอร์เทอร์ หัวหน้านักอุตุนิยมวิทยาของ AccuWeather กล่าวว่า มีครอบครัวนับหมื่นกำลังเผชิญกับกระแสลมแรงเกิน 100 ไมล์ต่อชั่วโมง และฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน พร้อมระบุว่าความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานอาจขัดขวางการลำเลียงความช่วยเหลือเข้าสู่พื้นที่ได้
พายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ที่เคลื่อนตัวช้ามักจะกลายเป็นหนึ่งในพายุที่คร่าชีวิตและสร้างความเสียหายมากที่สุดในประวัติศาสตร์ นี่คือสถานการณ์เลวร้ายที่กำลังเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ
จาเมกาเคยประสบพายุลูกใหญ่หลายครั้งในอดีต เช่น พายุเฮอริเคนกิลเบิร์ต ระดับ 4 เมื่อปี 1988 แต่การถูกพายุระดับ 5 เข้าชนโดยตรงนั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เมลิสซาเคลื่อนตัวช้ากว่าพายุเฮอริเคนกิลเบิร์ตมาก ซึ่งเป็นพายุลูกใหญ่ลูกสุดท้ายที่พัดเข้าจาเมกาโดยตรง
ประเทศใกล้เคียงอย่างเฮติและสาธารณรัฐโดมินิกันก็ประสบฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย ตามรายงานของทางการทั้งสองประเทศ
ในเฮติ ซึ่งประสบปัญหาความยากจนและความรุนแรงจากแก๊งอาชญากรรมมายาวนาน ทางการเปิดเผยว่ามีประชาชนกว่า 3,650 คนในภาคใต้ต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว พร้อมระงับเที่ยวบินทั้งหมดไปยังคาบสมุทรตอนใต้และสั่งห้ามเรือทุกลำออกจากท่า
ด้านบาฮามาส นายกรัฐมนตรีฟิลิป เดวิส ได้สั่งอพยพประชาชนในพื้นที่ตอนใต้และตะวันออกของหมู่เกาะ ขณะที่ภาคตะวันออกของคิวบากำลังเตรียมรับมือพายุที่กำลังจะขึ้นฝั่ง
ขณะที่ทางการคิวบาระบุว่า ได้อพยพประชาชนแล้วกว่า 500,000 คน จากพื้นที่ชายฝั่งและภูเขาที่มีความเสี่ยงสูงต่อกระแสลมแรงและน้ำท่วม พร้อมทั้งสั่งปิดโรงเรียนและระบบขนส่งในภาคตะวันออกทั้งหมด
มากกว่า 250,000 คนถูกอพยพเข้าสู่ศูนย์พักพิงรอบเมืองซันติอาโก เด คิวบา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของประเทศ และอยู่ในเส้นทางตรงของพายุเมลิสซาที่คาดว่าจะพัดผ่านโดยตรง