เปิดสาเหตุเบนซินไม่มีขาย หลัง"ลดราคาน้ำมัน 2.50 บาท" รัฐไม่ชดเชยส่วนต่าง

08 พ.ย. 2566 | 13:59 น.

เปิดสาเหตุเบนซินไม่มีขาย หลัง"ลดราคาน้ำมัน 2.50 บาท" รัฐไม่ชดเชยส่วนต่าง ฐานเศรษฐกิจรวบรวมข้อมูลทั้งหมดไว้ให้แล้ว ด้านปั๊มน้ำมันออกโรงแจงยืนยันไม่มีการกักตุนสต็อกน้ำมัน

จากกรณีที่สถานีบริการน้ำมัน (ปั๊มน้ำมัน) หลายแห่งไม่มีน้ำมันให้บริการ โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 รวมถึงน้ำมันประเภทอื่นที่ลดราคาตามมาตรการรัฐบาลและกระทรวงพลังงานที่ลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน จนมีกระแสข่าวว่าสถานีบริการน้ำมันกักตุนน้ำมันไม่ยอมจำหน่าย

ขณะที่รัฐบาลเองโดยกระทรวงพลังงานได้ออกมาตรการล่าสุดลงนามคำสั่งกระทรวงพลังงานที่ ๔๗/๒๕๖๕๖ แต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน ติดตามและ ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการไม่จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของสถานีน้ำมันเชื้อเพลิงทั่วประเทศขึ้นทันที

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลของ "ฐานเศรษฐกิจ" เพื่อไขข้อสงสัยเรื่องน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ไม่มีจำหน่ายพบว่า

แหล่งข่าวจากจากสถานีบริการน้ำมัน ระบุว่า ในความเป็นจริงปั๊มไม่ได้กักตุนน้ำมัน โดยสาเหตุที่น้ำมันหมด เพราะปั๊มลดสต๊อกน้ำมันมาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 66 เพื่อขายราคาเดิมให้หมดวันที่ 6 พ.ย. 66 ป้องกันการขาดทุน หลังจากนั้นวันที่ 7 จึงสั่งน้ำมันในราคาใหม่ที่ลดแล้วมาจำหน่าย
 

สถานีบริการน้ำมันอีกแห่งให้ข้อมูลว่า ที่ปั้มน้ำมันหลายแห่งไม่น้ำมันชนิดเบนซินและแก๊สโซฮอล์จำหน่ายวันที่ 7-8 พ.ย. 66 เนื่องจาก 

  • ทุกปั้มต้องการลดสต๊อกของปั้มตนเองเพื่อให้เหลือน้อยที่สุด เพราะรัฐบาลไม่ได้ขดเชยส่วนต่างที่ปรับลงอย่างรุนแรงให้

เปิดสาเหตุเบนซินไม่มีขาย หลัง"ลดราคาน้ำมัน 2.50 บาท" รัฐไม่ชดเชยส่วนต่าง

  • เมื่อมีการปรับลดสต๊อกลง บางปั้มคำนวนผิดพลาดและ/หรือทำให้ปั้มข้างเคียงขายมากกว่าปกติ สุดท้ายน้ำมันจึงหมดตามกันไปทุกปั้ม
  • ไม่คุ้มค่าขนส่งที่ต้องจ้างรถขนส่งน้ำมันวิ่งมาส่งน้ำมันมาเพียง 3,000 ลิตร โดยต้องจ้างเป็นคัน 18,000 ลิตรจึงจะคุ้มค่าขนส่ง จึงปล่อยให้น้ำมันหมด เพื่อรอซื้อเพิ่มเช้าวันที่ 7 พ.ย.66

ส่วนวันที่ 9 พ.ย. 66 บางปั๊มน้ำมันก็อาจจะยังไม่มีน้ำมันจำหน่าย เพราะ

  • ไม่มีรถขนส่งน้ำมันเป็นของตนเอง ต้องว่าจ้างรถขนส่ง และต้องรอคิวรถจ้างวิ่งที่มีคิวยาวทั่วประเทศที่สั่งน้ำมันพร้อมกันทั้งประเทศ โดยเท่าที่ทราบข้อมูลตอนนี้คิวยาวไปถึงวันที่ 10 พ.ย. 66
  • ความสามารในการโหลดน้ำมันแต่ละคลังแตกต่างกัน ได้วันละไม่มาก ตามจำนวนปกติจะโหลดได้ทันเพียงพอ แต่มาพร้อมกันทุกปั้มต้องใช้เวลาในการโหลด 2-3 วัน จึงจะหมดคิวรถ
  • คลังมีสต๊อกจำกัดเมื่อโหลดต่อเนื่อง 2 วัน 2 คืน ในสต๊อกก็หมดคลังเช่นกัน ต้องรอเรือเทียบท่าลงก่อนจึงจะจ่ายน้ำมันได้ต่อ ซึ่งระยะเวลาดังกล่าวนี้ หากเรือไม่เข้า หรือคลังไม่ได้คำนวนน้ำมันเผื่อก็อาจจะหมด 3-5 วันได้

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้วันนี้และพรุ่งนี้บางปั้มยังไม่มีน้ำมันจำหน่าย

อย่างไรก็ดี จากการที่บมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์ (OR) และบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ลงอีก 60 สตางค์ต่อลิตรล่าสุด ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย. 66 ส่งผลทำให้ปั้มที่ไม่มีน้ำมันขายที่รอคิวรับน้ำมันวันนี้ ก็ไม่จ้องการรับน้ำมันเข้ามาเพิ่ม โดยจะเลือนไปรับวันที่ 9 พ.ย. 66 หลังเวลา 05.00 น. ไม่เช่นนั้นก็จะขาดทุนอีกลิตรละ 60 สตางค์

แหล่งข่าวจากสถานีบริการน้ำมัน ยกตัวอย่างอีกว่า ปั๊มใดที่มีสต๊อกที่ซื้อก่อนวันที่ 6 พ.ย. 66 เหลือแล้วยังขายไม่หมดถึงวันที่ 9 พ.ย. 66 จะเท่ากับว่าราคาลงไปอีก 2.50+0.6 = 3.10 บาท ต้องขาดทุนทันที่ลิตรละ 3.10 บาท เพราะฉะนั้นหากลองคำนวณโดยใช้ 10,000 ลิตร x3.10 ก็จะเท่ากับขาดทุน 31,000บาท 

"ที่ยกตัวอย่างเป็นเพียงแค่เบนซิน แก๊สโซฮอล์ 91 ชนิดเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงเบนซิน แก๊สโซฮอล์ลงทุกชนิด ยกเว้นดีเซล เพราะฉะนั้นหากรวมทุกชนิดเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทั้งปั้มก็จะขาดทุนเกือบแสนบาท หากไม่ลดสต๊อก หรือปล่อยให้หมดตามกันไป"