ส่องแผน “บาหลี” จาก E-Mobility สู่ Net Zero 2045

Key Point

E-Mobility Momentum ในอินโดนีเซียและบาหลี 

• แรงจูงใจทางการเงินเพื่อเพิ่มโครงสร้างพื้นฐาน EV ที่ทำให้ดึงดูดผู้เล่นทั้งในและต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนมากขึ้นในอินโดนีเซีย
• แผนปฏิบัติการ E-mobility ระดับภูมิภาคและระบบการติดตาม แนวปฏิบัติสำหรับผู้ให้ทุน ภาคเอกชน และผู้มีบทบาทอื่นที่ไม่ใช่รัฐ เพื่อรองรับการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการระดับภาค
• อุตสาหกรรมการแปลง EV คาดว่าจะเติบโตเช่นเดียวกับอินโดนีเซีย ยังมีรถจักรยานยนต์ ICE มากกว่า 120 ล้านคัน (4ล้านอยู่ที่บาหลี)
• รัฐบาลจังหวัดบาหลี มีเป้าหมายที่จะบรรลุการปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2045

 

 

 

“บาหลี” (Bali) 1 ใน 34 จังหวัดของประเทศอินโดนีเซียที่มีเมืองหลักได้แก่ เดนปาซาร์ (Denpasar)  ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยทะเลบาหลีในตอนเหนือและมหาสมุทรอินเดียทางตอนใต้ ได้ชื่อว่าเป็นที่สุดของอินโดนีเชีย เพราะบาหลีก็ถือเป็นเกาะในฝันของนักท่องเที่ยว ที่เดินทางกันอย่างไม่ขาดสาย บาหลี ไม่ได้มีดีแค่ทะเลอย่างเดียว แต่ยังมี ศิลปะ วัฒนธรรม ผู้คน วิถีชีวิต ธรรมชาติ ศาสนา ทะเลสาบ ภูเขาไฟ นาขั้นบันได ระบำบารอง ผ้าบาติก และ สโมสรฟุตบอลบาหลียูไนเต็ด ซึ่งเป็นที่รู้จักและโด่งดัง ประชากรส่วนใหญ่บนเกาะบาหลีนับถือศาสนาฮินดู ภาษาที่ใช้คือภาษาอินโดนีเซีย และภาษาบาหลี  พื้นที่ทั้งหมด 5,634.40 ตารางกิโลเมตร มีประชาการทั้งสิ้น 3,422,600 คน ความหนาแน่นของประชากร 607 คน/ตารางกิโลเมตร

บาหลี ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน มีความพยายามผ่านนโยบายต่างๆ เช่น การห้ามใช้ถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว การเร่งความเร็วของการขับเคลื่อนด้วยยานยนต์ไฟฟ้า และประเด็นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อให้ได้การปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ เมื่อเกิดการระบาดใหญ่ของโควิด-19 บาหลีได้เปลี่ยนโฟกัสไปยังการจัดการวิกฤตเศรษฐกิจ ซึ่งบาหลีเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดในอินโดนีเซีย การระบาดได้หยุดภาคการท่องเที่ยวซึ่งเป็นภาคส่วนหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในบาหลี

จากข้อมูลของ Dr.Samsi Gunarta หัวหน้าส่วนราชการสำนักงานขนส่งท้องถิ่นของบาหลี ระบุว่า จำนวนยานพาหนะในบาหลี แบ่งออกเป็น รถจักรยานยนต์ 4,460,158 คัน รถยนต์ 482,372 คัน ซึ่งการพึ่งพายานพาหนะส่วนตัวทำให้เกิดปัญหาอย่าง เช่น สิ่งแวดล้อมและความแออัด ขณะนี้ จำนวนยานพาหนะส่วนตัว (รถจักรยานยนต์ และรถยนต์) มีมากกว่าจำนวนประชากรทั้งหมดของบาหลี

แนวโน้มรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในบาหลีนั้น จำนวนยานพาหนะไฟฟ้าในบาหลี เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยมีค่าเฉลี่ยเป็นรายไตรมาส อัตราการเติบโต 30.12% ขณะที่อัตราการเติบโตสูงสุดเกิดขึ้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2565 ซึ่งประจวบเหมาะกับการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ในการประชุมสุดยอดกลุ่มผู้นำจี-20 ประจำปี 2565 และการให้สัตยาบันแผนปฏิบัติการ E-mobility ระดับภูมิภาค ขณะที่บาหลีได้สร้างจุดชาร์จมากกว่า 25 จุด เพื่อรองรับการขนส่ง แบ่งออกเป็น สถานีชาร์จขนาดกลาง 25 กิโลวัตต์  สถานีชาร์จขนาดกลาง 50 กิโลวัตต์  ULTRA FAST CHARGING การชาร์จแบบเร็ว 200 กิโลวัตต์

โดยบาหลี มุ่งเน้นให้ความสำคัญของการเปลี่ยนไปสู่ ​​EV และเป็นจังหวัดเดียวใน อินโดนีเซียที่มีการขับเคลื่อนยานยนต์ไฟฟ้า E-Mobility เป็นแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาค ได้รับมอบหมาย กฤษฎีกาผู้ว่าการ ฉบับที่ 787 ปี 2565 บาหลีเป็นจังหวัดเดียวที่ตอบสนองต่อประธานาธิบดี ข้อบังคับฉบับที่ 55 ของปี 2019 ผ่านระเบียบผู้ว่าการ ฉบับที่ 48 ของปี 2019 และแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคของ Bali E-Mobility

แผนปฏิบัติการ E-mobility ระดับภูมิภาคของบาหลี ถือเป็นแนวทางและแนวทางสำหรับการเร่งความเร็วของระบบนิเวศการขับเคลื่อนยายนต์ไฟฟ้าของบาหลี ถูกกำหนดขึ้นโดยมีเป้าหมายที่วัดผลได้ และมุ่งตรงไปที่เป้าหมายเร่งรัดการดำเนินการของยานยนต์ไฟฟ้าและบรรลุเป้าหมายการปล่อยมลพิษสุทธิเป็นศูนย์ของบาหลีในปี 2045

โครงการเร่งรัดการขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าในจังหวัดบาหลี

• จำนวนรถ 2 ล้อไฟฟ้าหรือรถจักรยานยนต์ ที่จดทะเบียน คาดว่า ใน 2024 จะมีจำนวน 93,529 คัน ปี 2025 จำนวน 180,642 คัน และในปี 2026 จำนวน 287,056 คัน
• จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียน คาดว่า ใน 2024 จำนวน 7,386 คัน ปี 2025 จำนวน 12,937 คัน และในปี 2026 จำนวน 19,435 คัน
• จำนวนรถเมล์ไฟฟ้าที่จดทะเบียน คาดว่า ใน 2024 จำนวน 30 คัน ปี 2025 จำนวน 40  คัน และในปี 2026 จำนวน 50 คัน

ข้อมูลดังกล่าวเป็นจำนวนการนำ EV มาใช้รวมถึงการนำ EV ใหม่และ EV ที่แปลงแล้ว (จากรถ เครื่องยนต์สันดาปภายใน Internal Combustion Engine: ICE)

Dr.Samsi กล่าวต่อว่า ขณะนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดและข้อกำหนดสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้การกำหนดมาตรฐานเทคโนโลยีแบตเตอรี่และส่วนประกอบสำคัญอื่นๆ สำหรับ EV ก็เป็นเรื่องที่สำคัญ

สำหรับความท้าทายที่เกิดขึ้น มีทั้งเรื่องเงินทุนและรูปแบบธุรกิจ E-Mobility ที่ต้องการเงินทุน ประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นปีที่คาดว่าจะเป็นไปได้ที่จะดึงดูดจากภาคเอกชน การพัฒนาตามโซน โดยรัฐบาลบาหลีกำลังดำเนินการพัฒนาตำแหน่งโซน EV หลายแห่ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นความสามารถในการจัดหาของ OEM หรือ Original Equipment Manufacturing คือ การผลิตสินค้าให้กับผู้ซื้อ ซึ่งในปัจจุบันเป็นสิ่งที่ท้าทายมากในการบรรลุเป้าหมาย ทำให้ขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างตลาดใหม่ผ่าน EV การแปลงและเทคโนโลยีอื่น ๆ รวมทั้ง มาตรฐานความปลอดภัย

โครงการริเริ่มเขตปล่อยมลพิษต่ำของบาหลีและโครงการรถโดยสารไฟฟ้า

การริเริ่มเขตปล่อยมลพิษต่ำของบาหลี เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อบรรลุ Bali Net Zero Emission 2045 โดยปรับปรุงคุณภาพอากาศเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและ สิ่งแวดล้อมโดยการลดการปล่อยก๊าซในที่กำหนดที่พื้นที่ พร้อมรเร่งการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้และเร่งรัดแผนปฏิบัติการระดับภูมิภาคของ E-mobility พร้อมแซนด์บ็อกซ์

ที่ตั้งที่มีศักยภาพของเขตปล่อยมลพิษต่ำของบาหลี

• เขตกูตา
• เขตเดนปาซาร์ โกตา
• เขตซานูร์
• พื้นที่อูบุด
• เขตนูซาดัว (ITDC)
• พื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เบซากิห์
• บริเวณนูซาเปนิดา

สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์เบซากิห์มีการนำ Low Emission Zone - LEZ  ไปใช้ในหลายสถานที่ซึ่งจะจำกัดการใช้ ยานพาหนะ ICE ซึ่งหมายความว่าผู้คนจะจำเป็นต้องใช้ EV หรือสามารถใช้ EV ได้บริการรถรับส่ง

ขณะที่พื้นที่อูบุดได้เริ่ม Low Emission Zone - LEZ ผ่าน Smart @Ubud เป็นโครงการความร่วมมือกับโตโยต้า มูลนิธิเคลื่อนที่ (TMF) โดยจะพัฒนาระบบรถรับส่ง EV และการข้อมูลการขนส่งสาธารณะ