“กกพ.” ต้องลดค่าไฟทันทีหลังราคาก๊าซลงตั้งแต่ ธ.ค.65

17 ก.พ. 2566 | 05:30 น.

“กกพ.” ต้องลดค่าไฟทันทีหลังราคาก๊าซลงตั้งแต่ ธ.ค.65 รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าจี้เลิกเอาเปรียบประชาชน ไม่ต้องรอรอบพิจารณาค่าเอฟทีทุก 4 เดือน

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าชาติพัฒนากล้า เปิดเผยว่า ต้องการให้คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) พิจารณาลดค่าไฟฟ้าทันที เพราะราคาก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตไฟฟ้า ราคาลดลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว

สำหรับราคาก๊าซอ่าวไทย (Gulf Gas) ลดลง 4.38 บาทต่อล้านบีทียู อยู่ที่ 238.8008 บาทต่อล้านบีทียู ,ก๊าซจากพม่า (Myanmar Gas) ลดลงมา 17.68 บาทต่อล้านบีทียู อยู่ที่ 375.1649 บาทต่อล้านบีทียู ,ก๊าซธรรมชาตินำเข้า (LNG) ลดลงมา 117.57 บาทต่อล้านบีทียู อยู่ที่ 599.1430 บาทต่อล้านบีทียู 
 

รวมถึงราคา Spot LNG ปลาย ม.ค.66 อยู่ที่ 19 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ราคาต่างกับช่วง ส.ค.65 ซึ่งอยู่ที่ 55 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนรุนแรงที่สุด โดยขณะนั้นภาคครัวเรือนใช้ไฟยูนิตละ 4 บาท 

จี้ กกพ. ลดค่าไฟทันที แต่เวลานี้ประชาชนต้องจ่ายราคาค่าไฟถึงยูนิตละ 4.72 บาท มาตั้งแต่ ก.ย.65 ทั้งที่ราคาพลังงานต้นทุนหลักที่ใช้ผลิตไฟฟ้า คือก๊าซธรรมชาติถูกลงมากตั้งแต่ ธ.ค.65 และค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้น รวมถึงก๊าซในอ่าวไทยของไทยเองที่มีราคาไม่แพง ก็ได้เพิ่มกำลังการผลิตไปแล้ว

"การไฟฟ้าเอาเปรียบประชาชนเกินไป ทาง กกพ. ควรทบทวนมติการกำหนดค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ หรือค่าเอฟที (ค่า FT) ทันที โดยดำเนินการลดค่าไฟฟ้าให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง อย่าอ้างว่ายังไม่ถึงรอบทบทวนทุก 4 เดือน เพราะเอาเปรียบประชาชนให้ซื้อไฟฟ้าราคาสูงถึงยูนิตละ 4.72 บาท ในรอบ ม.ค.-พ.ค.66 ทั้งที่แนวโน้มราคาต้นทุนลงมาตั้งแต่ ธ.ค.65" 

นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า กระทรวงพลังงานต้องเห็นใจประชาชนที่กำลังฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด 19 โดยหลายคนเอาเงินเก็บในธนาคารออกมาปรับปรุงกิจการใหม่เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อได้ อย่าเอาเปรียบทางด้านราคาค่าไฟฟ้าเกินจริง