ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

02 ก.พ. 2566 | 02:15 น.

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังปรับเพิ่มขึ้น

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน 2 กุมภาพันธ์ 2566 

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคา 

- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสและเบรนท์ปรับลด หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานตัวเลขน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 ม.ค. 2566 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 452.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 4 แสนบาร์เรล นับเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน อีกทั้งปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล และน้ำมันดีเซลคงคลังสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล 
 

+ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 0.25 เพื่อให้ได้เป้าหมายที่ระดับ 4.50 -4.75 ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรงในรอบ 40 ปีของสหรัฐฯ ขณะเดียวกันเฟดระบุว่า แม้อัตราเงินเฟ้อผ่อนคลายลง แต่ก็จะยังคงเดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอยู่

+ คณะกรรมการร่วมด้านการตรวจสอบระดับรัฐมนตรี (JMMC) ของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร (โอเปกพลัส) มีมติเสนอให้คงนโยบายปัจจุบันในการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2566

ราคาน้ำมันดิบปรับลด หลังปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯเพิ่มขึ้น

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังได้รับแรงกดดันปริมาณการนำเข้าน้ำมันเบนซินของจีนลดลง อย่างไรก็ตาม ความต้องการใช้น้ำมันเบนซินในอินโดนีเซียมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น เพื่อเตรียมสำหรับการเดินทางช่วงรอมฎอน ในเดือนมี.ค. 

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังปริมาณการส่งออกน้ำมันดีเซลของญี่ปุ่นลดลง ประกอบกับอุปทานมีแนวโน้มตึงตัวมากขึ้น หลังยุโรปห้ามนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูปจากรัสเซียตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 66

ที่มา : บมจ.ไทยออยล์