SHARGE ผนึกพันธมิตรผุดสถานีชาร์อีวีข้ามพรมแดนยาวสุดในอาเซียน

10 ม.ค. 2566 | 09:18 น.

SHARGE ผนึกพันธมิตรผุดสถานีชาร์อีวีข้ามพรมแดนยาวสุดในอาเซียน พัฒนาแอปฯค้นหาจุดชาร์จ HPC ไทย-มาเลเซียเชื่อมเครือข่าย EV Charger ความเร็ว 180-360 kW

นายพีระภัทร ศิริจันทโรภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชาร์จ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SHARGE) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับเชลล์ (Shell) และปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก (Porsche Asia Pacific) ยกระดับ EV Infrastructure ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เติบโตรองรับเมกะเทรนด์การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV)  

 

ทั้งนี้ จะดำเนินการจำหน่ายและผู้ติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ขนาด 180kW ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงที่สุดในไทยในขณะนี้ ให้แก่สถานี “Shell Recharge” และสถานีชาร์จยานยนต์พลังงานไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง (HPC) ทั้ง 11 แห่งในไทย ตามแผนการขยายเครือข่าย EV Charger ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ข้ามพรมแดน 3 ประเทศ คือไทย มาเลเซีย และสิงคโปร์ 

 

ซึ่งทาง Shell และ Porsche ได้ประกาศวิสัยทัศน์ไปก่อนหน้านี้ ให้ผู้ใช้งานสามารถชาร์จพลังงานจาก 0% State of Charge (SoC) ถึงระดับ 80% ภายใน 30 นาที เดินทางได้สูงสุดถึง 390 กิโลเมตร สำหรับรถปอร์เช่ ไทคานน์ (Taycan)
 

“ด้วยนวัตกรรม HPC จากความร่วมมือดังกล่าวจะช่วย Scale Up ภารกิจขยาย EV Infrastructure ให้ไปไกลกว่าเดิม เพราะกำลังร่วมกันสร้างเครือข่ายใหญ่ระดับภูมิภาคให้ผู้ใช้รถ EV เข้าถึงสถานีชาร์จประสิทธิภาพสูงที่เร็วแรงที่สุดได้ง่ายขึ้น ทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญของวงการ EV Charger ประเทศไทย ที่ได้ยกระดับเทคโนโลยีการให้บริการสู่มาตรฐานสากลระดับโลก สามารถเชื่อมเข้ากับเครือข่าย EV Charger แบบข้ามพรมแดนได้เป็นครั้งแรก สะท้อนถึงความพร้อมของ SHARGE ในการเดินหน้าขยายบริการ EV Charger ไปยังประเทศต่างๆ ในอนาคต” 

 

SHARGE ผนึกพันธมิตรผุดสถานีชาร์อีวีข้ามพรมแดนยาวสุดในอาเซียน

 

อย่างไรก็ดี ด้วยมาตรฐานการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการ EV Charger ระดับสากล บริษัทยังเป็นผู้ผสานการทำงานระหว่างแอปพลิเคชันแบบข้ามประเทศ (Cross Border Integration) เชื่อมโยงแอปพลิเคชันของ SHARGE เข้ากับแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการสถานี HPC 6 แห่งในมาเลเซีย 

 

ส่งผลให้ผู้ใช้บริการรถ EV ทุกคันสามารถค้นหาสถานี HPC ของ Shell Recharge ในมาเลเซีย รวมถึงจองคิว และจ่ายเงินได้ผ่านแอปฯ SHARGE สานต่อการเป็นเครือข่าย EV Charger ที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2,200 กม.ของ Shell และ Porsche ส่งผลให้ SHARGE เป็นผู้ให้บริการ EV Charger รายแรกของประเทศไทยที่ขยายการให้บริการไปสู่ระดับภูมิภาค
 

อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะดำเนินการติดตั้งเครื่องชาร์จความเร็วสูงให้แก่สถานี HPC ของ Shell Recharge ทั้ง 11 แห่งทั่วประเทศได้อย่างต่อเนื่อง จนเปิดให้บริการทุกแห่งได้เร็วๆ นี้ และเชื่อมโยงบริการแอปพลิเคชันกับมาเลเซียเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 1/2566 ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนขยายความร่วมมือกับ Shell อย่างต่อเนื่อง 

 

"ความร่วมมือทั้งหมดจะส่งผลให้ยอดผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน SHARGE ทะลุ 20,000 ราย และช่วยให้บริษัทสามารถส่งมอบประสบการณ์การใช้บริการ EV Charger ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้บริโภค 

 

นายเรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กรรมการบริหาร ธุรกิจโมบิลิตี้ บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยกลยุทธ์ Powering Progress มีเป้าหมายสู่การเป็นธุรกิจพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Emission) ภายในปี พ.ศ. 2593 เชลล์จึงพัฒนาโซลูชันด้านพลังงานหลายรูปแบบเพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลังงานมากขึ้น 

 

โดยที่ต้องเป็นพลังงานที่สะอาดมากขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เชลล์มีศักยภาพและความพร้อมที่ในการส่งมอบพลังงานต่างๆ ที่มีประสบการณ์อยู่ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นพลังงานโซลาร์ ไฮโดรเจน พลังงานลม เชื้อเพลิงชีวภาพ และพลังงานไฟฟ้า โดยขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของนโยบายประเทศและความต้องการของลูกค้าเป็นปัจจัยสำคัญ 

 

“เข้าใจว่าผู้ใช้รถ EV ต้องการความรวดเร็ว ความเชื่อถือได้ ในการชาร์จไฟฟ้า ตลอดจนความสะดวกสบายของจุดให้บริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางสัญจรระยะยาวข้ามประเทศ เชลล์เปิดตัวสถานีชาร์จพลังงานไฟฟ้าสมรรถนะสูง HPC 180 kW แห่งแรก เป็นการขยายเครือข่ายการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้าที่ยาวที่สุดของเชลล์ จากสิงคโปร์ มาเลเซียและเข้าสู่ประเทศไทย ถือเป็นการขับเคลื่อนการเดินทางสำหรับอนาคตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้เกิดเส้นทางสัญจรที่ปราศจากมลภาวะมุ่งสู่การเดินทางที่ยั่งยืน”