ค่าไฟ 2566 หน่วยละกี่บาท ปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่ ต้องจ่ายเกิน 5 บาทไหม เช็คเลย
ค่าไฟ 2566 หน่วยละกี่บาท ปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่ ต้องจ่ายเกิน 5 บาทไหม เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หลังปลัดกระทรวงพลังงานเตรียมหามาตรการดูแล
ค่าไฟ 2566 หน่วยละกี่บาท ปรับราคาขึ้นอีกหรือไม่ เป็นคำถามที่ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก
หลังจากในรอบบิลปัจจุบันค่าเอฟทีของเดือน ก.ย.-ธ.ค. 65 มีการปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.72 บาทต่อหน่วย และดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มต้องปรับราคาขึ้นอีกตามต้นทุนที่ใช้ในการผลิต
อย่างไรก็ดี ล่าสุด นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน ระบุว่า กระทรวงพลังงานเตรียมดำเนินมาตรการพยุงอัตราค่าไฟฟ้าในช่วงต้นปี 2566 หรือรอบบิลแรก (ม.ค.-เม.ย.) ให้คงอัตราไม่เกิน 4.72 บาทต่อหน่วย เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนทั่วประเทศ คิดเป็น 22 ล้านครัวเรือน(รวม 17 ล้านครัวเรือนแล้ว)
ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานราคาน้ำมันที่ระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล แต่หากราคาก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี) สูงเกิน 25 เหรียญฯต่อล้านบีทียู จะให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) และโรงไฟฟ้าเอกชน ใช้น้ำมันดีเซลผลิตไฟฟ้าแทนก๊าซฯ เพื่อดูแลต้นทุนค่าไฟ คาดว่าจะใช้ดีเซล ประมาณ 200-300 ล้านลิตร
โดยการดูแลค่าไฟนี้จะอยู่ในแผนดูแลราคาพลังงานในช่วงไตรมาส4(ตุลาคม-ธันวาคม 2565) ถึงไตรมาส2ปีหน้า(เมษายน-มิถุนายน2566) ซึ่งจะมีมาตรการอื่นรวมอยู่ด้วย ได้แก่
- ขยายระยะเวลาปลดระวางโรงไฟฟ้าแม่เมาะ(ถ่านหิน) โรงที่ 8
- นำโรงไฟฟ้าแม่เมาะ โรงที่ 4 ที่ปลดระวางไปแล้ว กลับมาเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเข้าระบบอีกครั้ง คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้ จะมีไฟฟ้าเข้าระบบอีก 200 เมกะวัตต์
- เร่งผลิตก๊าซธรรมชาติจากแหล่งในประเทศ ทั้งเร่งเพิ่มกำลังผลิตก๊าซฯแหล่งเอราวัณ เพิ่มการผลิตก๊าซฯแหล่งอื่น ตลอดจนจัดซื้อก๊าซฯจากเมียนมาเพิ่มเติมทั้งแหล่งซอติก้า และยาดานา
- ซื้อก๊าซฯเพิ่มจากองค์กรร่วมไทย-มาเลเซีย หรือ MTJA อีกทั้งการรับซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากลาวเพิ่มเติมด้วย
- เร่งส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) จัดทำมาตรการสนับสนุนให้เกิดการลงทุนผลิตแบตเตอรี่ในประเทศ ดูแลเรื่องของการจัดทำระบบชาร์จไฟฟ้าที่บ้านเพื่ออำนวยความสะดวก ทำข้อมูลเชื่อมโยงการใช้แอพลิเคชันรองรับการใช้งานรถอีวีหลายยี่ห้อ และจัดทำระบบชำระค่าบริการชาร์จไฟฟ้าของรถอีวีที่ชำระร่วมกันได้
- ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เข้าสู่ระบบตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี) ฉบับใหม่กว่า 10,000 เมกะวัตต์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบส่งไฟฟ้าให้ทันสมัย
- เดินหน้าเทคโนโลยีพลังงานใหม่ๆ อาทิ ระบบกักเก็บคาร์บอน CCS และ CCUS ตลอดจนเดินหน้ากรีนไฮโดรเจน