ส่องนโยบายพรรคการเมือง เลือกตั้ง 2566 แก้สิ่งแวดล้อม-ฝุ่น PM 2.5

27 มี.ค. 2566 | 01:00 น.

ส่องนโยบายพรรคการเมือง ในศึกเลือกตั้ง 2566 ที่ใกล้เข้ามาทุกขณะ ว่ามุ่งแก้ปัญหา สิ่งแวดล้อม-ฝุ่น PM 2.5 อย่างไรกันบ้าง

ศึกเลือกตั้ง 2566 ใกล้เข้ามา ล่าสุด ลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า หรือ เลือกตั้งนอกเขตเลือกตั้ง ในเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร ถูกกำหนดระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 9 เมษายน 2566 นี้

ที่ผ่านมาเราได้เห็นนโยบายพรรคการเมืองที่ออกมาเรียกคะแนนเสียงในกลิ่นอายของ “นโยบายประชานิยม” โดยเฉพาะนโยบายที่มุ่งแก้ปัญหาปากท้อง หรือ นโยบายสวัสดิการสังคม เเต่มีอีกหนึ่งนโยบายที่สำคัญ ซึ่งก็คือ "นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม" มีคำถามตามมาว่า พรรคการเมืองสนใจปัญหานี้มากน้อยเเค่ไหน เพราะอาจจะไม่ได้ถูกนำเสนอมากเท่านโยบายทางเศรษฐกิจ ตัวอย่างนโยบายที่หลายพรรคการเมืองนำเสนอได้แก่ การใช้พลังงานหมุนเวียน การขายคาร์บอนเครดิต การแก้ไขระเบียบการซื้อขายไฟฟ้า และการแก้ไขปัญหา PM2.5 เป็นต้น 

"ฐานเศรษฐกิจ" รวบรวมนโยบายสิ่งแวดล้อมของพรรคการเมืองในการเลือกตั้ง มาไว้เพื่อให้ได้เห็นว่า เเต่ละพรรคมุ่งแก้ปัญหานี้ด้านไหนบ้าง 

พรรคก้าวไกล

นโยบาย “สิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า” โดยประกาศศึกกับภาวะโลกร้อน มีนโยบายที่ชัดเจน ทั้งรุกและรับเพื่อรับมือผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้วและมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นจากสภาพอากาศที่แปรปรวน และมุ่งไปที่ต้นตอของปัญหา เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกให้ได้จริง ควบคู่กับสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับการรักษาสิ่งแวดล้อม 

นโยบาย แก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 

  • นโยบายด้านการเกษตร  ป้องกันการเผา เปลี่ยนก๊าซเรือนกระจกเป็นรายได้
  • กำจัดการเผาภายใน 3 ปี งบปรับตัวตำบลละ 3 ล้านบาท 1,000 ตำบล
  • เปลี่ยนการเผาเป็นเงินในกระเป๋าเกษตรกร งบอุดหนุนปลูกข้าว “เปียกสลับแห้ง” แทนการเผา สร้างอุตสาหกรรมแปรรูปฟางข้าวเเละซังข้าวโพดแทนการเผา

นโยบายด้านการขนส่ง

  • ปรับปรุงการขนส่งให้สะอาดที่สุด
  • รถเมล์ไฟฟ้าทุกจังหวัด ภายใน 7 ปี
  • “วันขนส่งฟรี” รณรงค์ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว
  • เปลี่ยนรถไฟดีเซลเก่าเป็นไฟฟ้า
  • ตรวจสภาพรถยนต์ฟรีปีละครั้ง
  •  ควบคุมปริมาณรถบรรทุกในเขตเมือง

พรรคภูมิใจไทย

นโยบาย “ภูมิใจกรุงเทพฯ 24/7” เพื่อแก้ปัญหาให้คนกรุงเทพฯ 

นโยบาย แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อยู่ในหมวด “ให้คุณภาพชีวิตที่ดี” 

  • รถเมล์ไฟฟ้า/เรือไฟฟ้า ให้ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ
  • ติดโซลาร์ รูฟ ฟรี ลดโลกร้อนทุกครัวเรือน
  • วินมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันละ 6,000 บาท วินไรเดอร์ ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ ให้ผู้ขับขี่ทุกคนสามารถเปลี่ยนมาใช้รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในราคาที่เอื้อมถึง

พรรคเพื่อไทย

ผลักดันเป็นนโยบายพรรคเพื่อไทยแก้วิกฤต PM 2.5 ใน 6 ด้าน

  1. ห้ามเผาป่า เผาไร่จริงจัง
  2. เจรจากับประเทศเพื่อนบ้านและเอกชนไทย ห้ามเผาไร่จริงจัง
  3. เปลี่ยนรถเมล์ กทม. หลายพันคันเป็นรถไฟฟ้าโดยเร็วที่สุด
  4. เข้มรถปล่อยควัน โรงงานปล่อยมลพิษ ไซต์งานก่อสร้าง
  5. ทำไทยเป็นศูนย์ผลิตรถไฟฟ้า ดันราคาลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
  6. ผลักดันกฎหมายอากาศสะอาด

นอกจากนี้เพื่อไทยพร้อมผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เป็นนโยบายหลักหากได้เป็นรัฐบาล 

พรรคประชาธิปัตย์

นโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ใน กทม. คือ ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของคนกรุงเทพฯ ทั้งเรื่องน้ำและเรื่องอากาศ โดยจะผลักดันการออกกฎหมายอากาศสะอาด  เป็นกฎหมายที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของคน กทม. 

พรรคชาติไทยพัฒนา

ประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม

นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมและพลังงานของพรรคชาติไทยพัฒนามีทั้งหมดด้วยกัน 6 ข้อ ดังนี้

  1. คุ้มครอง อนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนา
  2. บริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
  3. ควบคุม และแก้ไขปัญหามลพิษ
  4. วิจัย และพัฒนาองค์ความรู้เพื่อความยั่งยืน
  5. พัฒนาคุณภาพการผลิตพลังงาน และแสวงหาพลังงานทดแทนจากทรัพยาการธรรมชาติ
  6. ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์

พรรคชาติพัฒนากล้า

นโยบาย “พันธบัตรป่าไม้”  1 ในยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเฉดสี เพื่อเป็นเครื่องมือใช้ในการส่งเสริมการปลูกป่า แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม

อ้างอิงจาก รายงาน ข้อเสนอสำหรับพรรคการเมืองต่อ 4 นโยบายด้านสังคมในการเลือกตั้งทั่วไป 2566 ของ TDRI ระบุว่า นโยบายที่สำคัญแต่ยังไม่มีพรรคการเมืองไหนเสนอ คือ นโยบายที่เกี่ยวกับการปรับตัวและการลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจะเป็นปัญหาใหญ่มากต่อประเทศไทยที่มีความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันดับที่ 9 ของโลกตามการประเมินของ Global Climate Risk Index 

นอกจากนี้พรรคการเมืองยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนในการทำให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีค.ศ. 2065 หรือพ.ศ. 2608 แม้จะมีบางพรรคการเมืองเสนอให้เลิกการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินภายในปีพ.ศ. 2580 หรือส่งเสริมการใช้มอเตอร์ไซค์หรือรถยนต์ไฟฟ้า (EV) มากขึ้น แต่นโยบายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็ถูกบางพรรคการเมืองลดทอนลงจนเหลือเพียงการสร้างรายได้จาก “คาร์บอนเครดิต” ของเกษตรกร 

หากสังเกตให้ดีจะพบว่า หลายพรรคการเมืองเสนอ การเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน (Energy Transition) ไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ขณะเดียวกันเสนอนโยบายลดค่าไฟฟ้าหรืออุดหนุนค่าไฟฟ้าแก่ผู้ใช้ไฟบางกลุ่มเช่น เกษตรกร หรือแก่ประชาชนทั่วไปทั้งหมด ซึ่งอาจนำไปสู่การเพิ่มปริมาณก๊าซเรือนกระจกหากไม่สามารถเปลี่ยนผ่านทางพลังงานได้อย่างรวดเร็วเพียงพอ  

ในรายงานยังระบุอีกว่า ปัญหา PM2.5 ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชนปีละกว่า 3 หมื่นคนและยังมีผลกระทบด้านสุขภาพต่อประชาชนจำนวนมาก เป็นเรื่องดีที่หลายพรรคการเมืองเสนอนโยบาย เเต่การแก้ไขปัญหานี้ให้เกิดผลสำเร็จจะต้องอาศัยความร่วมมือของหลายกระทรวง ซึ่งจะเป็นเรื่องท้าทายมาก