“ยอดพจน์ วงศ์รักมิตร” ประธานมูลนิธิใบไม้ปันสุข กล่าวว่า มูลนิธิใบไม้ปันสุข เริ่มทำงานมาตั้งแต่ปี 2560 ด้วยเป้าหมายการสร้างสรรค์สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และลงมือทำ เพื่อให้เยาวชนอ่านออกเขียนได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ซึ่งมูลนิธิฯ ได้ทำงานร่วมกับ ทุ่งสักอาศรม บมจ. เอสซีจี เคมิคอลส์ และมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ ตลอด 5 ปี โดยจะเดินหน้าต่อใน 3 โครงการหลัก ได้แก่ “โครงการอ่านเขียนเรียนสนุก ปั้นเด็กจิ๋วเป็นเด็กแจ๋ว” “โครงการรักษ์ ปัน สุข จูเนียร์” และ “โครงการโซลาร์ปันสุข”
“กลอยตา ณ ถลาง” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานสื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อความยั่งยืน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำอะไรอย่างยั่งยืน จะไม่ยั่งยืน ถ้าเยาวชนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ เพราะฉะนั้น การศึกษาจึงเป็นพื้นฐานที่สำคัญ ที่ผ่านมา บางจากทำซีเอสอาร์ในพื้นที่โดยรอบ โดยให้ความสำคัญกับการศึกษาและสิ่งแวดล้อมควบคู่กัน
สำหรับโครงการด้านสิ่งแวดล้อม ในปีนี้ มูลนิธิฯ ได้จัดทำโครงการโซลาร์ปันสุข สร้างแหล่งเรียนรู้พลังงานทดแทนในภาคเกษตรกรรม ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ และต่อยอดองค์ความรู้จากโรงเรียนสู่ชุมชน โดยมูลนิธิใบไม้ปันสุข ร่วมกับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ หาโรงเรียนที่มีผลงานด้านการเกษตรและการพัฒนาชุมชนรอบข้าง เพื่อสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์ ขนาดเล็ก
พร้อมถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ทางการเกษตร โดยหวังยกระดับคุณภาพชีวิตเยาวชนและสังคมไทย และเพื่อตอบสนองต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ ในเป้าหมายที่ 13 Climate Action และเป้าหมายที่ 7 Affordable and Clean Energy
หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,822 วันที่ 29 กันยายน - 1 ตุลาคม พ.ศ. 2565