KEY
POINTS
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ณ พระราชวัง Windsor Castle เมืองวินด์เซอร์ ประเทศอังกฤษ "เดวิด เบคแฮม" หนึ่งในนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหราชอาณาจักร ได้รับพระราชทานอัศวินจาก "สมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3" พระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักร เพื่อเป็นการยกย่องต่อผลงานยาวนานของเขาในด้านกีฬาและกิจกรรมการกุศล
อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษวัย 50 ปี ได้รับเกียรติในครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นมากกว่า 20 ปีหลังจากที่เขาเคยได้รับเหรียญตราพระราชทานอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยกย่องการมีส่วนร่วมของเขาในโลกฟุตบอล
เบคแฮม ซึ่งเติบโตขึ้นมาในพื้นที่อีสต์เอ็นด์ของกรุงลอนดอน กล่าวด้วยสีหน้ายินดีว่า เขาร้องไห้เมื่อทราบข่าวว่าจะได้รับเกียรติเป็นอัศวิน “มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับครอบครัวของเรา และมันพิเศษมาก” เขากล่าว โดยแซวเล่นว่า เขาคงไม่ว่าอะไรถ้าลูก ๆ จะเรียกเขาว่า “เซอร์ แด๊ด” (Sir Dad) ก็ได้
เขากล่าวต่อว่า “ผมภูมิใจมากที่ได้รับเกียรติพิเศษแบบนี้ ผมเติบโตขึ้นมาในพื้นฐานที่เรียบง่ายในอีสต์เอ็นด์ของลอนดอน อยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่เด็ก และตอนนี้ผมมายืนอยู่ที่วินด์เซอร์ คาสเซิล กับสถาบันกษัตริย์ที่สำคัญที่สุดในโลก” พร้อมบอกว่า “มันไม่มีอะไรดีไปกว่านี้อีกแล้ว”
จากการเปิดตัวในพรีเมียร์ลีกกับทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อปี 1995 สองปีหลังจากที่เขาเข้าร่วมเป็นนักเตะฝึกหัด เขาคว้าแชมป์ลีก 6 ครั้ง, แชมป์เอฟเอคัพอีก 2 ครั้ง และแชมป์แชมเปียนส์ลีก ก่อนที่จะย้ายไปเล่นให้ทีมอย่าง Real Madrid, LA Galaxy, AC Milan และ Paris Saint‑Germain และเลิกเล่นในปี 2013 พร้อมสถิติ 115 นัดให้ทีมชาติอังกฤษ
นอกจากความสำเร็จในสนามแล้ว เบคแฮมยังโดดเด่นในเชิงพาณิชย์ และเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ให้กับองค์กรต่าง ๆ เช่น UNICEF ตั้งแต่ปี 2005 โดยสื่อได้ประเมินว่าเขาและภรรยามีมูลค่าทรัพย์สินรวมมากถึง 500 ล้าน ปอนด์
เบคแฮมยังได้แสดงให้เห็นถึงความชื่นชมในสถาบันกษัตริย์อย่างเปิดเผย โดยเคยเข้าคิวมากกว่า 12 ชั่วโมงเพื่อไปวางดอกไม้สักการะพระศพของ "สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (อดีตพระราชินีแห่งสหราชอาณาจักร)" ขณะตั้งพระบรมศพที่หอเวสต์มินสเตอร์ ในปี 2022
"ครอบครัวของผมเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ของผมเอง" เบคแฮมกล่าว
ที่มาเนื้อหาและลิขสิทธิ์ภาพ - รอยเตอร์ส