ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

14 ต.ค. 2568 | 15:07 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ต.ค. 2568 | 15:21 น.

ผลบอลล่าสุด "ทีมชาติญี่ปุ่น" ซามูไรบลูสร้างประวัติศาสตร์! คัมแบ็กสุดช็อกจากตามหลัง 0-2 ในครึ่งแรก แซงชนะบราซิลแชมป์โลก 5 สมัย 3-2 ได้เป็นครั้งแรก คาเซมิโร่รับ "รับไม่ได้อย่างยิ่ง"

KEY

POINTS

  • ญี่ปุ่นสร้างประวัติศาสตร์เอาชนะบราซิลได้เป็นครั้งแรกด้วยสกอร์ 3-2 ในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตร
  • ทีมชาติญี่ปุ่นสร้างปาฏิหาริย์พลิกสถานการณ์จากที่ตามหลัง 0-2 ในครึ่งแรก กลับมายิง 3 ประตูรวดในครึ่งหลัง
  • ชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ หลังจากที่ญี่ปุ่นไม่เคยเอาชนะบราซิลได้เลยในการพบกัน 9 ครั้งก่อนหน้านี้

ผลบอลสุดปาฏิหาริย์แห่งโตเกียว ญี่ปุ่นพลิกสถานการณ์จากตามหลัง 0-2 แซงเอาชนะบราซิล 3-2 คว้าชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์เหนือแชมป์โลก 5 สมัย

ซามูไรบลู สร้างประวัติศาสตร์

ทีมชาติญี่ปุ่นทำผลงานได้อย่างน่าทึ่งในการแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรนานาชาติประจำปี 2025 โดยสามารถ พลิกนรกกลับมาเอาชนะทีมชาติบราซิลได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วยสกอร์ 3-2

ในเกมที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ณ สนามอายิโนะโมโตะ กรุงโตเกียว เมื่อวันอังคารที่ 14 ตุลาคม 2025 โดยมีแฟนบอลเข้าชมเต็มความจุ 44,920 คน

ก่อนหน้านี้ ญี่ปุ่นไม่เคยเอาชนะบราซิลได้เลยในการพบกัน โดยสถิติการพบกันทั้งหมด 9 ครั้งหลังสุด  ญี่ปุ่นมีสถิติเสมอ 2 ครั้ง และแพ้ 7 ครั้ง ทำให้ชัยชนะครั้งนี้เป็นหนึ่งในชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลญี่ปุ่น

ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

รายละเอียดครึ่งแรก: บราซิลออกนำด้วยความเหนือชั้น

ทีมชาติบราซิลภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ซึ่งมาพร้อมกับความมั่นใจหลังจากเอาชนะเกาหลีใต้มาอย่างท่วมท้น 5-0 เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ได้แสดงความเหนือชั้นในครึ่งแรกและขึ้นนำไปก่อนถึง 2 ประตู:

ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

นาทีที่ 26: บราซิลได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ บรูโน่ กีมาไรส์ มิดฟิลด์จากนิวคาสเซิล จ่ายบอลทะลุช่องอย่างยอดเยี่ยม ก่อนที่ เปาโล เฮนริเก กองหลังจากหมายเลข 13 จะยิงอย่างทรงพลังเข้าประตูไป

นาทีที่ 32: เพียง 6 นาทีต่อมา บราซิลก็ทิ้งห่างเป็น 2-0 เมื่อ ลูคัส ปาเกต้า มิดฟิลด์จากเวสต์แฮม จ่ายบอลให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี กองหน้าจากอาร์เซนอล ที่ยิงเรียดเข้าประตูไปอย่างเฉียบคม

เมื่อจบครึ่งแรก สกอร์นำ 2-0 ทำให้หลายฝ่ายคาดว่าบราซิลน่าจะคุมเกมและคว้าชัยชนะไปได้

ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ครึ่งหลัง: การคัมแบ็กอันน่าเหลือเชื่อและความผิดพลาดของบราซิล

ญี่ปุ่นภายใต้การนำของกุนซือ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ได้แสดงให้เห็นถึงการพลิกสถานการณ์ที่ยอดเยี่ยมอย่างไม่น่าเชื่อ โดยสามารถทำได้ถึง 3 ประตู ภายในช่วงเวลาที่น่าทึ่งเพียง 19 นาที

นาทีที่ 52: ทาคุมิ มินามิโนะ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล ฉกฉวยโอกาสจากความผิดพลาดครั้งใหญ่ในการจ่ายบอลของ ฟาบริซิโอ บรูโน่ กองหลังบราซิล ทำให้มินามิโนะได้ยิงจากกรอบเขตโทษเข้าไปตุงตาข่าย ตีไข่แตกเป็น 1-2

ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

นาทีที่ 63: ญี่ปุ่นตามตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จ จากการยิงของ เคย์โตะ นากามูระ เป็นจังหวะที่ ฟาบริซิโอ บรูโน่ เข้าสกัดบอลแต่กลับหวดบอลเข้าประตูตัวเองอย่างน่าผิดหวัง นับเป็นช่วงเวลา "เลวร้าย" สำหรับบรูโน่

นาทีที่ 71: อายาเสะ อุเอดะ โหม่งทำประตูชัยที่จุดประกายความดีใจอย่างล้นหลาม ณ สนามอายิโนะโมโตะ อุเอดะขึ้นโหม่งอย่างหนักหน่วงเอาชนะ ลูคัส เบรัลโด้ กองหลังบราซิล จากลูกเตะมุมที่เปิดมาอย่างแม่นยำของ จุนยะ อิโตะ ซึ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 54

สถิติเชิงลึก: ญี่ปุ่นเฉียบขาดกว่าแม้ครองบอลน้อย

แม้ว่าบราซิลจะครองบอลได้ถึง 67.2% และญี่ปุ่นครองบอลเพียง 32.8% โดยบราซิลจ่ายบอลรวม 754 ครั้ง เทียบกับ 352 ครั้งของญี่ปุ่น แต่ทีมชาติญี่ปุ่นกลับมีประสิทธิภาพในการโจมตีเหนือกว่าอย่างชัดเจน:

  • โอกาสยิงรวม: ญี่ปุ่น 15 ครั้ง เทียบกับ บราซิล 9 ครั้ง
  • โอกาสยิงเข้ากรอบ: ญี่ปุ่น 6 ครั้ง เทียบกับ บราซิล 4 ครั้ง
  • ญี่ปุ่นได้ลูกเตะมุมมากกว่า (4 ต่อ 2) และมีการเข้าสกัดที่ประสบความสำเร็จในเปอร์เซ็นต์ที่สูงกว่ามาก (81.3% เทียบกับ 53.3% ของบราซิล)

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังมีการยิงชนเสาหรือคาน 1 ครั้ง ในขณะที่บราซิลไม่มีเลย

ปาฏิหาริย์! ผลบอล ญี่ปุ่นพลิกแซงบราซิล 3-2 คว้าชัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ปฏิกิริยาหลังเกมและการเตรียมพร้อมสำหรับฟุตบอลโลก

ทั้งสองประเทศได้ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2026 เรียบร้อยแล้ว เกมนี้จึงถูกใช้เพื่อเตรียมความพร้อม โดยบราซิลได้ส่งผู้เล่นจากพรีเมียร์ลีกหลายคนลงสนามเป็นตัวจริง เช่น บรูโน่ กีมาไรส์, กาเบรียล มาร์ติเนลลี, ลูคัส ปาเกต้า และ คาเซมิโร่

คาเซมิโร่ กัปตันทีมบราซิล แสดงความไม่พอใจต่อฟอร์มการเล่นในครึ่งหลัง โดยได้ให้สัมภาษณ์กับ Globo สถานีโทรทัศน์บราซิลว่า: “มันคือภาวะ 'ดับมืด' (blackout) ของทุกคนในทีมเราในครึ่งหลัง”

เขาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเล่นในระดับสูงสุด: “นี่คือระดับสูงสุด หากคุณเผลอหลับไปตลอดทั้งครึ่งหลัง มันอาจทำให้คุณต้องเสียฟุตบอลโลก, โคปา อเมริกา หรือเหรียญโอลิมปิกไปได้” คาเซมิโร่กล่าวทิ้งท้ายว่านี่เป็นสิ่งที่ "รับไม่ได้อย่างยิ่ง"  และพวกเขาจำเป็นต้องเรียนรู้จากบทเรียนนี้อย่างเร่งด่วน เนื่องจากฟุตบอลโลกอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม

สำหรับญี่ปุ่น ชัยชนะอันน่าจดจำนี้ทำให้พวกเขายืดสถิติ ไม่แพ้ใครในบ้านติดต่อกันเป็น 21 นัด โดยพวกเขาไม่แพ้ใครในประเทศนับตั้งแต่พ่ายแพ้ต่อโคลอมเบียเมื่อเดือนมีนาคม 2023