KEY
POINTS
วันนี้ (14 ตุลาคม 2568) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 จากงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น รวม 720 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาใหญ่ของประเทศไทย ตามข้อเสนอของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประกอบด้วย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 และ กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025) วงเงินรวม 455,962,200 บาท แบ่งเป็น
1. ค่าใช้จ่ายสาขาพิธีเปิด - ปิดการแข่งขัน และไฟพระฤกษ์ จำนวน 166,282,000 บาทรายละเอียด ดังนี้
2. ค่าใช้จ่ายสาขาการประชาสัมพันธ์ การดำเนินการศูนย์ถ่ายทอดสัญญาณฯ (IBC) จำนวน 30,000,000 บาท
3. ค่าใช้จ่ายในการจัดจ้างดำเนินการจัดหาที่พัก อาหาร ขนส่ง และ ค่าซักรีด ของนักกีฬาเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าร่วมการแข่งขันจากต่างประเทศ จำนวน 259,680,200 บาท
ส่วนค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนในเมืองหลวง (World Capital Marathon Series) รายการ “Amazing Thailand Marathon Bangkok” วงเงิน 264,352,941 บาท
ทั้งนี้ ประเมินว่า ประเทศไทยจะมีรายได้จากการใช้จ่ายเงินจากผู้เข้าร่วมการแข่งขัน ผู้ติดตามและผู้ชมการแข่งขัน ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่จะเดินทางมาร่วมการแข่งขัน ตลอด 3 ปี ไม่น้อยกว่า 3,297 ล้านบาท (ปีละไม่น้อยกว่า 1,099 ล้านบาท) เกิดการว่าจ้างงาน สำหรับเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ อาสาสมัคร นักเรียนและนักศึกษา ที่จะมาปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ตลอด 6 เดือนก่อนการแข่งขัน ตลอด 3 ปี มากกว่า 21,000 อัตรา (ปีละไม่น้อยกว่า 7,000 อัตรา)
ส่วนของมูลค่าด้านการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งโครงการที่ประกอบไปด้วยการถ่ายทอดสดการแข่งขันไปทั่วโลก การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในทุกแพลตฟอร์มคิดเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 870 ล้านบาท (ปีละไม่น้อยกว่า 290 ล้านบาท) ครอบคลุมปีละไม่น้อยกว่า 180 ล้านครัวเรือนทั่วโลก (หรือประมาณ 450 ล้านคนต่อปี) คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจที่คาดว่าประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฯ ตลอด 3 ปี ไม่น้อยกว่า 4,377 ล้านบาท