เปิดโปรแกรมทีมชาติไทย ลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี

ฟุตบอลทีมชาติไทย U23 ภายใต้การนำทีมของ ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล หัวหน้าผู้ฝึกสอนคนใหม่ เตรียมพาทัพช้างศึก U23 ลงสนามทำศึกในรายการ ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ASEAN U-23 Championship 2025 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์นี้ ทีมชาติไทย อยู่กลุ่ม C ร่วมกับ เมียนมา และ ติมอร์ เลสเต โดยเงื่อนไขการแข่งขันจะนำทีมแชมป์กลุ่มทั้ง 3 กลุ่ม และอันดับ 2 ที่ผลงานดีที่สุด 1 จาก 3 กลุ่มผ่านเข้ารองต่อไป ทั้งนี้รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ จะแข่งขันกันในวันที่ 25 และ 29 กรกฎาคม ณ เกโลรา บุง การ์โน สเตเดียม

 

สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย ในรอบแบ่งกลุ่ม ศึกฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีดังต่อไปนี้

วันที่ 19 กรกฎาคม 2568

• ติมอร์ เลสเต U23 พบ ไทย U23
• เวลา 20.00 น.
• สนาม แพทริออต สเตเดียม

วันที่ 22 กรกฎาคม 2568

• ไทย U23 พบ เมียนมา U23
•  เวลา 20.00 น.
• สนาม แพทริออต สเตเดียม
   

ส่วนรายชื่อทัพนักเตะทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เตรียมลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน ประกอบไปด้วย

ผู้รักษาประตู

1. ศิรัสวุฒิ วงค์เรือนคำ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
2. ศรวัสย์ โพธิ์สมัน สโมสร สงขลา เอฟซี
3. ชมพัฒน์ บุญเลิศ สโมสร ชลบุรี เอฟซี

กองหลัง
4. พิชิตชัย เศียรกระโทก สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี
5. ชนภัช บัวพันธ์ สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด
6. กิตติพัฒน์ กุลภา สโมสร ระยอง เอฟซี
7. สพล น้อยวงษ์ สโมสร โปลิศ เทโร เอฟวี
8. ธีร์กวิน จันทร์ศรี สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด
9. พลเอก มณีกร สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี
10. ภัทรพล ศึกษากิจ สโมสร สุโขทัย เอฟซี

กองกลาง
11. สิรภพ วันดี สโมสร ชลบุรี เอฟซี
12. ธนกฤต ละออไขย์ สโมสร เอฟซี ติอาโม่ ฮิรากาตะ
13. สิทธา บุญหล้า สโมสร การท่าเรือ เอฟซี
14. เสกสรรค์ ราตรี สโมสร ระยอง เอฟซี
15. ชวัลวิทย์ แซ่เล้า สโมสร พราม แบงค็อก
16. ชัยพล อดทน สโมสร สุโขทัย เอฟซี
17. สงครามสมุทร น้ำผึ้ง สโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี

กองหน้า
18. นรากรณ์ แก่งกระโทก สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
19. ชินวัตร ประจวบมอญ สโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด
20. พันธมิตร ประพันธ์ สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี
21. ยศกร บูรพา สโมสร ฮู่กัง ยูไนเต็ด
22. ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย สโมสร หนองบัว พิชญ เอฟซี
23. ธีรภัทร ปรือทอง สโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด

ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล โค้ชวัง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U23 กล่าวว่า ได้เตรียมงานมาค่อนข้างเยอะ พยายามศึกษานักเตะไทยแต่ละคน เมื่อวานก็ได้มีการประชุมสตาฟ เพื่อแบ่งหน้าที่กันว่าใครทำอะไรกันบ้าง ก็แบ่งงานกันเรียบร้อย และได้เจอน้องๆ ในการรายงานตัวและได้พูดคุยบางอย่างไปแล้ว น้องทุกคนก็มาครบ 23 คน ก็ได้เริ่มการซ้อมได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งก็เตรียมโปรแกรมซ้อมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงเกมอุ่นเครื่องกับ โปลิศ เทโร ในวันที่ 13 กรกฎาคม รวมถึงแผนการซ้อมที่อินโดนีเซียด้วย

 

"ขอเอาเวลาที่ต้องหนักใจมาทำงานดีกว่า เรามีเวลาไม่เยอะ แต่เราก็ต้องทำงานหนัก ก็ได้คุยกับน้องและทีมงานแล้ว ว่าทุกคนที่มาในฐานะตัวแทน ให้พยายามเปลี่ยนความกดดันเป็นความภาคภูมิใจ มาทำงานร่วมกันดีกว่า ความกังวลก็มีอยู่บ้างแต่เชื่อว่า เราทำงานร่วมกัน เราสามารถพัฒนาให้แข็งแกร่งขึ้น ทัวร์นาเมนต์นี้ผมก็เชื่อว่าแม้จะมีเวลาไม่เยอะ แต่ด้วยความพร้อมของนักกีฬาที่หลายคน ก็มีปรีซีซั่น เรื่องร่างกายก็ค่อนข้างดี ก็ปรับจูนเรื่องระบบ และหน้าที่ของตัวเอง ในแต่ละโซน ซึ่งก็ได้พูดคุยกับนักเตะไปบ้างแล้ว"

 

หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย U23 คนใหม่ กล่าวเพิ่มเติมว่า "สิ่งที่ต้องเสริมก็คือการเข้าทำ หลังได้ดูมาหลายแมตช์ที่ผ่านมา น้องๆ ทำได้ดี ในการสร้างเกม แต่การจบสกอร์ที่ยังขาด พยายามคุยกับทีมงาน ในการแก้ไขตรงนี้ ในการเข้าทำ การจบสกอร์  และก็จะไม่ลืมในเรื่องเกมรับ ก็จะพยายามเน้นเรื่องลูกตั้งเตะ สำหรับคีย์แมน ก็มองหลายคน ทั้ง เสกสรรค์ ราตรี และ สิทธา บุญหล้า แต่ที่มองตรงนี้ ทีมยังขาดกองกลางหมายเลข 6 เพราะในทีมจะมีแค่ สิทธา คนเดียว อย่าง ชัยพล พอเล่นตรงนี้ได้แต่ ตำแหน่งถนัดคือแบ็คซ้าย หลังได้สอบถาม และได้ข้อมูลมาจาก โค้ชอัครภรณ์ ชลิตาภรณ์ ของสุโขทัย เอฟซี ก็ได้มีการสอบถามไปที่สโมสรของน้องๆหลายๆคน ว่าคนไหนมีสไตล์การเล่นอย่างไรก็ได้ข้อมูลมาค่อนข้างเยอะ เป้าหมายก็อยากจะไปถึงแชมป์ แต่ว่าด้วยระหว่างทางมากกว่า ในการเตรียมทีมในระยะเวลาเท่านี้ จะทำอย่างไรให้เราไปถึงแชมป์ให้ได้"

ด้าน เสกสรรค์ ราตรี กัปตันทีมชาติไทย U23 ชุดลุยศึกชิงแชมป์อาเซียน กล่าวว่า "วันนี้เป็นการซ้อมวันแรก ก็พยายามทำความรู้จักกันให้มากขึ้น และทำผลงานให้ออกมาดี สิ่งที่ต้องปรับจากก่อนหน้านี้ ก็อาจจะมีปรับเล็กน้อย โดยโค้ชวัง ก็บอกว่าต้องพยายามดึงศักยภาพของตัวเองให้เต็มร้อย ส่วนแนวทางก็อาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย"
 

"ผมไม่ได้รู้สึกกังวล แต่ก็จะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด และพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ให้ได้ครับ ความพร้อมของทีมตอนนี้ ผมไม่แน่ใจ แต่เชื่อว่าทุกคนจะพยายามทำให้ดีที่สุด พยายามร่วมเล่นกันให้มากที่สุด ความพร้อมส่วนตัวของผมตอนนี้ก็เต็มร้อยอยู่แล้ว"

 

 

ที่มาข้อมูล-ภาพ

• ฟุตบอลทีมชาติไทย
• สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์