อาเซียนพาราเกมส์ "T Sports7 ถ่ายทอดสด" เชียร์ทีมชาติไทย 30 ก.ค.-6 ส.ค.นี้

22 ก.ค. 2565 | 09:15 น.

การกีฬาแห่งประเทศไทย แถลง "โปรแกรมการถ่ายทอดสดอาเซียนพาราเกมส์ 2022" ครั้งที่ 11 ดูสดผ่าน "T Sport 7" จากอินโดนีเซีย "เชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย" 30 ก.ค. - 6 ส.ค.นี้

การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) แถลงข่าว "การถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ (ASEAN PARA Games2022) ครั้งที่ 11" เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ซึ่งจะจัดขึ้น ณ เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 30 ก.ค. - 6 ส.ค.65  

 

นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าฝ่ายยุทธศาสตร์เทคโนโลยีสารสนเทศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 ก.ค. - 6 ส.ค.นี้ กกท.ได้ให้การสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งงานด้านพัฒนาศักยภาพและวิทยาศาสตร์กีฬาแก่ทีมกีฬาทั้ง 14 ชนิดกีฬา 

 

โดยสนับสนุนให้เริ่มเก็บตัวตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2565 รวมระยะเวลาเก็บตัวเพื่อทำศึกหนนี้ต่อเนื่อง 7 เดือน ซึ่งจากการติดตามและประเมินผลการฝึกซ้อมของ กกท.ที่ทำร่วมกับชนิดกีฬาต่างๆ ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีมากๆ และทุกคนก็พร้อมแล้วที่จะเดินทางไปทำการแข่งขันและคว้าชัยชนะกลับมาฝากพี่น้องชาวไทย

โปรแกรมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ (ASEAN PARA Games2022) ที่ปรเะทศอินโดนีเซีย

รองผู้ว่า กกท. ยังเผยอีกว่า ในการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ที่เมืองโซโล ประเทศอินโดนีเซียนั้น กกท.ได้มีการประสานความร่วมมือไปกับทางผู้จัดการแข่งขันเพื่อขอนำสัญญาณถ่ายทอดสดกลับมายังประเทศไทยในตลอดช่วงระยะเวลาการแข่งขัน 

 

โดยจะทำการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) แบบจุใจตลอดการแข่งขัน เพื่อให้แฟนๆ กีฬาชาวไทยได้ร่วมลุ้นและเชียร์ทัพนักกีฬาไทยไปพร้อมๆ กัน


ด้าน ดร.กิตติพงษ์ โพธิมู ผู้แทนคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย เผยว่า น่าเสียดายที่สถานการณ์โควิด-19 เกิดการระบาดหนักในช่วงปี 2019-2020 ทำให้การแข่งขันครั้งที่ 10 ที่ประเทศฟิลิปปินส์นั้นถูกยกเลิกไป ส่วนครั้งนี้อินโดนีเซียรับหน้าที่จัดแทนประเทศเวียดนาม ตามความเห็นชอบของ สหพันธ์กีฬาอาเซียน (APSF)

 

โดยจะมีนักกีฬาจาก 11 ชาติทั่วอาเซียน นักกีฬากว่า 1,500 คนร่วมชิงชัยกันใน 14 ชนิดกีฬา ซึ่งในส่วนของประเทศไทยเราส่งครบทุกชนิดกีฬา

อาเซียนพาราเกมส์ "T Sports7 ถ่ายทอดสด" เชียร์ทีมชาติไทย 30 ก.ค.-6 ส.ค.นี้

 

"ในส่วนของการแข่งขันรอบนี้ ทัพนักกีฬาไทย 70 เปอร์เซ็นต์เป็นนักกีฬาที่มีประสบการณ์ในระดับนานาชาติสูง อีก 30 เปอร์เซ็นต์ คือสายเลือดใหม่ที่มีการผลักดันเข้ามาเสริมความสดและความแข็งแกร่ง เรื่องของเป้าหมายในการชิงชัย เรายังคงหวังว่าทัพนักกีฬาคนพิการของไทยจะสามารถคว้าได้อย่างน้อยๆ 70 เหรียญทอง ส่วนคู่แข่งสำคัญที่จะเบียดแย่งเจ้าเหรียญทองกับเรา ก็หนีไม่พ้น อินโดนีเซีย เจ้าเหรียญทองเมื่อครั้งก่อน ปี 2017 รวมถึงก็ยังประมาท มาเลเซีย และเวียดนามไม่ได้เช่นกัน"


ขณะที่ ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เผยว่า สำหรับนักกีฬาคนพิการเป็นกลุ่มนักกีฬาที่กองทุนฯ ให้ความสนใจในการส่งเสริมและสนันสนุน ด้วยที่นักกีฬาคนพิการมีความทุ่มเท อดทน และมุมานะในการฝึกฝนไม่ต่างจากคนปกติ ซึ่งที่ผ่านมานักกีฬาคนพิการไทยก็สร้างชื่อเสียง และสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทยมาแล้วอย่างมากมาย

 

ที่ผ่านมากองทุนฯ ได้ให้การสนับสนุนและส่งเสริมตั้งแต่ช่วงของการฝึกซ้อม ช่วงของการแข่งขัน และหลังจบการแข่งขัน โดยเฉพาะการมอบเงินรางวัลตอบแทนความมุ่งมั่นจากการคว้าเหรียญรางวัล

 

ซึ่งตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการให้รางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และสมาคมกีฬาที่ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” พ.ศ. 2562 จะมอบให้เหรียญทองละ 200,000 บาท, เหรียญเงิน 100,000 บาท และเหรียญทองแดง 50,000 บาท


พันโทรุจ แสงอุดม ผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) เผยถึงความพร้อมในการเตรียมการถ่ายทอดสด นอกจากการรับสัญญาณถ่ายทอดสดจากทางเจ้าภาพแล้ว ได้มีการจัดเตรียมทีมถ่ายทอดสดนอกสถานที่ ทีมข่าว และทีมผลิตรายการไฮไลท์

 

เพื่อให้ผู้ชมชาวไทยได้ติดตามชมและเชียร์นักกีฬาและเกาะติดการแข่งขันได้ทาง T Sports 7 ซึ่งจะทำการถ่ายทอดสดรวมมากกว่า 20 ชั่วโมงตลอดการแข่งขัน ทั้งผ่านสถานีโทรทัศน์เพื่อการท่องเที่ยวและกีฬา (T Sports 7) และช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊ค และยูทูป T Sports 7 อีกด้วย

 

สำหรับทัพนักกีฬาทีมชาติไทยที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 11 ทั้ง 14 ชนิดกีฬา ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมทั้งสิ้น 310 คน ดังนี้

  • กรีฑา ประเภทลู่และลาน 69 คน
  • ว่ายน้ำ 40 คน
  • แบดมินตัน 27 คน
  • เทเบิลเทนนิส 40 คน
  • ยกน้ำหนัก 13 คน
  • วอลเลย์บอลนั่ง 22 คน
  • วีลแชร์บาสเกตบอล 24 คน
  • โกลบอล 12 คน
  • บอคเซีย 11 คน
  • ยิงธนู 13 คน
  • วีลแชร์เทนนิส 11 คน
  • หมากรุก 9 คน
  • ฟุตบอล 14 คน
  • ยูโด 5 คน

 

ส่วนเจ้าหน้าที่ประสานงาน แพทย์ พยาบาล ไกด์รันเนอร์ ผู้ช่วยเหลือ ผู้ฝึกสอน และเทคนิค อีก 169 คน รวมไทยส่งคณะเจ้าหน้าที่และนักกีฬาร่วมศึกครั้งนี้ทั้งสิ้น 479 คน