ต่อขยาย ‘สายสีเขียว’ บางหว้า-ตลิ่งชัน ดันทำเลทองย่านราชพฤกษ์บูม

02 ก.ย. 2568 | 21:30 น.

จับตาบิ๊กเอกชน-อสังหาฯ ชิงเดือด หลัง “กทม.” เดินหน้าศึกษา “รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม บางหว้า-ตลิ่งชัน” วงเงิน 3.3 หมื่นล้านบาท ดันตลาดบ้านเดี่ยว-ทาวน์โฮม ย่านถนนราชพฤกษ์คึก หนุนศักยภาพปั้นพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีรถไฟฟ้า

KEY

POINTS

  • กทม. เดินหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายช่วงบางหว้า-ตลิ่งชัน ระยะทาง 7.5 กม. 6 สถานี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2576 เพื่อแก้ปัญหาจราจร
  • เส้นทางรถไฟฟ้าจะวิ่งตามแนวถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นทำเลทองของที่อยู่อาศัยฝั่งธนบุรี คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเพิ่มมูลค่าอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ให้สูงขึ้น
  • โครงการจะเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นอีก 4 สาย ทำให้สถานีบางหว้าและตลิ่งชันกลายเป็นศูนย์กลางคมนาคมที่สำคัญ ช่วยให้การเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองสะดวกยิ่งขึ้น

“โครงการระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานครรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีลม ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน” เป็นส่วนหนึ่งในแผนการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2 หรือ M-MAP 2 เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรบนถนนเพชรเกษมและถนนราชพฤกษ์ในปัจจุบัน

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา “กรุงเทพมหานคร” หรือกทม.ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อศึกษาโครงการดังกล่าวและเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการลงทุนโครงการหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชน (Market Sounding Stakeholder Forum) ให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ. 2562 ทั้งนี้จากผลการศึกษาเดิมมีมูลค่าทั้งโครงการฯรวม 33,937 ล้านบาท แบ่งเป็น ค่าก่อสร้างงานโยธา 11,050 ล้านบาท ค่าติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณฯ 3,019 ล้านบาท ค่าบริการทางวิศวกรรม 734 ล้านบาท ค่าบำรุงรักษา 15,029 ล้านบาท ค่าจัดหาขบวนรถไฟฟ้า 2,100 ล้านบาท ค่าจัดการค่าโดยสาร 752 ล้านบาท ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 1,252 ล้านบาท

อย่างไรก็ดีพบว่าโครงการการลงทุนดังกล่าวต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งหากเป็นการลงทุนจากภาครัฐเพียงอย่างเดียวนั้น จะไม่สามารถระดมเงินทุนได้เพียงพอ เนื่องจากมีข้อจำกัดในด้านการระดมทุนและการดำเนินนโยบายด้านการลงทุนที่ต้องคำนึงถึงเสถียรภาพการคลังของประเทศด้วย นอกเหนือจากการใช้เงินกู้ทั้งจากต่างประเทศและภายในประเทศ

นอกจากนี้ตามแผนจะกำหนดศึกษาและจัดทำรายงานร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนภายในปี 2569 ก่อนเสนอไปยัง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และคณะกรรมการ (บอร์ด) PPP จากนั้นจะเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการภายในปี 2570 โดยดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน ในปี 2570 -2571 และดำเนินก่อสร้างโครงการระหว่าง ปี 2572 – 2575 และพร้อมเปิดให้บริการ ในปี 2576

นายกษิดิ วิชิตอักษรพงศ์ ผู้จัดการโครงการฯ กล่าวว่า ศักยภาพทำเลที่ดินในการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์รอบสถานีของโครงการนี้คาดว่าสามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะบริเวรที่มีจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและรถไฟฟ้าสายสีแดง ซึ่งทางบริษัทที่ปรึกษาจะรับเรื่องนี้ไปพิจารณาและหารือร่วมกับกทม.ต่อไป

“บริษัทเชื่อว่าเมื่อมีรถไฟฟ้าเข้ามาถึงในพื้นที่ของโครงการฯจะทำให้เศรษฐกิจสามารถไปต่อได้ตามแนวเส้นทางของสถานีต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจบริเวณนี้มีความเจริญมากขึ้น ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อผู้ใช้บริการที่สามารถเดินทางเข้าเมืองได้สะดวก” นายกษิดิ กล่าว

สำหรับที่ดินในบริเวณแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายนี้ถือว่ามีศักยภาพสูงมาก เนื่องจากเป็นโครงการที่เชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชนเดิมที่สถานีบางหว้าและวิ่งไปตามแนวถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนสายหลักในฝั่งธนบุรี และยังเป็นทำเลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ขณะเดียวกันศักยภาพทำเลที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (สีลม) ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน พบว่า พื้นที่บริเวณสถานีบางหว้าถือเป็นฮับการเดินทางสำคัญ ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อ (Interchange) ที่สมบูรณ์แบบระหว่างรถไฟฟ้าบีทีเอสสายสีเขียวและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน โดยโครงการส่วนต่อขยายสายสีลมนี้ ทำให้พื้นที่นี้เป็นศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญ ไม่เพียงเท่านี้ด้วยศักยภาพของทำเลนี้ดึงดูดการลงทุนในโครงการที่อยู่อาศัยหลากหลายประเภท ทั้งคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ รองรับความต้องการของคนทำงานและนักศึกษาที่ต้องการเข้าถึงใจกลางเมืองได้อย่างสะดวก

ขณะที่ถนนราชพฤกษ์ถือเป็นทำเลทองสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งแนวเส้นทางรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายนี้จะพาดผ่านถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่อกับย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่น โดยเฉพาะโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมระดับกลางถึงบน ตลอดจนการมีรถไฟฟ้าพาดผ่านจะเพิ่มมูลค่าที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้อย่างก้าวกระโดด เนื่องจากช่วยลดระยะเวลาการเดินทางเข้าเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ และแก้ปัญหาการจราจรที่ติดขัดบนถนนราชพฤกษ์ได้ในระยะยาว

ฟากพื้นที่บริเวณตลิ่งชันยังคงเป็นอีกหนึ่งทำเลแห่งอนาคต เนื่องสถานีตลิ่งชันเป็นปลายทางของโครงการจะเชื่อมต่อกับรถไฟสายสีแดงอ่อน ทำให้พื้นที่บริเวณนี้กลายเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่ที่เชื่อมต่อระหว่างฝั่งตะวันตกของกรุงเทพฯ และพื้นที่กรุงเทพฯ ชั้นใน ด้วยศักยภาพของทำเลนี้ยังคงมีพื้นที่เปล่าและที่ดินแปลงใหญ่ให้พัฒนาอีกมาก เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ เช่น คอมมูนิตี้มอลล์ โครงการที่อยู่อาศัยผสมผสาน หรือศูนย์การค้า ซึ่งรองรับการขยายตัวของเมืองโดยเฉพาะในพื้นที่ฝั่งธนบุรี

สำหรับโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (สีลม) ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน มีระยะทาง 7.5 กม. จำนวน 6 สถานี ประกอบด้วย สถานีบางแวก สถานีบางพรม สถานีบรมราชชนนี สถานีบางเชือกหนัง สถานีอินทราวาส และสถานีตลิ่งชัน สามารถเชื่อมต่อกับโครงข่ายรถไฟฟ้า 4 สาย ประกอบด้วย 

1.รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สีลม) ช่วงเวียนใหญ่-บางหว้า เชื่อมต่อที่สถานีตลิ่งชัน 2.รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงเตาปูน-หลักสอง เชื่อมต่อที่สถานีบางหว้า 3.รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชัน เชื่อมต่อที่สถานีตลิ่งชัน และ 4.รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดง ช่วงศิริราช -ตลิ่งชัน-ศาลายา เชื่อมต่อที่สถานีตลิ่งชัน 

ต่อขยาย ‘สายสีเขียว’ บางหว้า-ตลิ่งชัน ดันทำเลทองย่านราชพฤกษ์บูม

อย่างไรก็ตามแนวเส้นทางของโครงการฯมีจุดเริ่มต้นที่จุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสบริเวณสถานีบางหว้า โดยแนวเส้นทางจะวิ่งไปทางทิศเหนือ ตามแนวเกาะกลางถนนราชพฤกษ์ ผ่านทางแยกตัดถนนบางแวก ผ่านทางแยกถนนพรานนก-พุทธมณฑล สาย 4 

จากนั้นจะยกระดับข้ามทางแยกถนนบรมราชชนนี และทางด่วนสายกาญจนาภิเษก และมาสิ้นสุดโครงการที่บริเวณทางลาดลงของสะพานข้ามทางรถไฟสายสีแดงอ่อน ช่วงบางซื่อ – ตลิ่งชัน ระยะทางรวมประมาณ 7.5 กิโลเมตร รวมจำนวน 6 สถานี ได้แก่ สถานีบางแวก สถานีบางเชือกหนัง สถานีบางพรม สถานีอินทราวาส สถานีบรมราชชนนี และสถานีตลิ่งชัน 

นอกจากนี้ยังเป็นที่น่าจับตาถึงโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว (สีลม) ตอนที่ 3 ช่วงบางหว้า – ตลิ่งชัน หากเริ่มเดินเครื่องเปิดประมูลและก่อสร้างได้ตามแผนจะเป็นโครงการที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากภาคเอกชนและผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์หลายราย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ทางบริษัทที่ปรึกษาของโครงการจะเชิญเข้าร่วมประชุมในการเปิดรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชนในครั้งถัดไป เช่น  บริษัทบีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัทซี.พี แลนด์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด ,บริษัทธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด ,(มหาชน) 

บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM,บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ,บริษัทซี.พี แลนด์ จำกัด (มหาชน) ,บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน),บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ,ฟู้ดวิลล่า ราชพฤกษ์,เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์,ศูนย์กลางตลาดดอกไม้ ปากคลองตลาดใหม่,Dunlopillo Flagship Store ราชพฤกษ์ ฯลฯ

หน้า 20 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจปีที่ 45 ฉบับที่ 4,128 วันที่ 4 - 6 กันยายน พ.ศ. 2568