ราคาที่ดินEEC แรงต่อเนื่อง บางละมุง ชลบุรี ยืนหนึ่งพุ่งพรวด 126.5%

20 ก.ค. 2568 | 01:25 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ค. 2568 | 01:41 น.

ราคาที่ดิน EEC ไตรมาสแรก68 แรงต่อเนื่อง  5 ทำเลทอง บางละมุง ชลบุรี ยืนหนึ่ง พุ่งพรวด126.5% จากปัจจัยดีมานด์อยู่อาศัย – โรงงานต่างชาติแห่ซื้อ รองรับอุตสาหกรรม

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยยังเผชิญวิกฤตรอบด้าน ทั้งกำลังซื้ออ่อนแอ สถาบันการเงินปฏฺิเสธสินเชื่อ ในทางตรงกันข้าม ราคาที่ดินกลับขยับ ทั้งทำเลแนวรถไฟฟ้ากรุงเทพมหานคร ปริมณฑล จังหวัดหัวเมืองใหญ่ ที่น่าจับตาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนแรงดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ และการขยายตัวของโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่รองรับการมาของเมืองอุตสาหกรรม

ราคาที่ดินในอีอีซีพุ่ง  ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนพัฒนาในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไตรมาส 1 ปี 2568 อยู่ที่ 332.2 จุด เพิ่มขึ้น 24.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยแรงหนุนหลักมาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่หลั่งไหลเข้ามาในพื้นที่ถึง 47,033 ล้านบาท เติบโต 31% YoY

นักลงทุนจาก ญี่ปุ่น จีน และสิงคโปร์ ยังคงปักหมุดในพื้นที่ EEC อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในโครงการนิคมอุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับแรงงานต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่ย้ายตามงานอุตสาหกรรมและบริการ

5 ทำเลเด่น ราคาที่ดินพุ่งสูงสุด

1. บางละมุง จ.ชลบุรี : +126.5%
เมืองท่องเที่ยวหลักอย่างพัทยา ขึ้นแท่นอันดับ 1 ราคาที่ดินพุ่งสูงสุด ด้วยดีมานด์จากโครงการคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร และการซื้อเพื่ออยู่อาศัยระยะยาวของชาวต่างชาติ

2. ศรีราชา จ.ชลบุรี : +88.6%
ทำเลยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น ปรับตัวแรงจากการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงบน ใกล้นิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
 

3. บ้านค่าย จ.ระยอง : +47.9%
เติบโตตามการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมและคลัสเตอร์พลังงาน ที่ดินเริ่มหายาก นักลงทุนเริ่มช้อนซื้อล่วงหน้า

4. เมืองชลบุรี : +33.5%
ศูนย์กลางเศรษฐกิจและบริการของจังหวัด ราคาที่ดินขยับต่อเนื่องจากโครงการพัฒนาเชิงพาณิชย์และแนวราบ

5. ปลวกแดง จ.ระยอง : +11.2%
ที่ดินติดนิคมอุตสาหกรรมชั้นนำ เหมาะสำหรับการพัฒนาโรงงาน โกดัง และที่อยู่อาศัยแรงงาน

ขณะที่ ฉะเชิงเทรา เป็นจังหวัดเดียวในกลุ่ม EEC ที่ราคาที่ดินปรับลดลง 13.5% โดยมีการชะลอการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยชั่วคราว จากภาวะตลาดที่ยังไม่แน่นอน

การเร่งขยายฐานผลิตและโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ EEC ยังคงเป็นแม่เหล็กดึงดูดเงินลงทุนต่อเนื่อง และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ ราคาที่ดินเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจนดีเวลลอปเปอร์วิ่งตามไม่ทัน