ศุภาลัย สู้ เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน ด้วยวินัยการเงิน -ฐานที่มั่นคง ชี้ วันนี้ยังไม่หนักเท่าต้มยำกุ้งปี40 แต่ก็ใกล้เคียง

06 ก.ค. 2568 | 00:49 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ค. 2568 | 01:04 น.

ศุภาลัย สู้ เศรษฐกิจโลกสั่นคลอน ด้วยวินัยการเงิน -ฐานที่มั่นคง ชี้ วันนี้อาจยังไม่หนักเท่าวิกฤตต้มยำกุ้งปี40 แต่ก็ใกล้เคียงเข้าไปทุกที ทางออกต้องระมัดระวัง

 

ท่ามกลางตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยในครึ่งปีแรกยังคงเปราะบาง ครึ่งปีหลังยังมีความเสี่ยงสูงทั้งปัจจัยภายในและภายนอกแต่สำหรับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของไทย  ยังคงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม 

 

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) สะท้อน บนเวที CREATIVE TALK CONFERENCE 2025 เมื่อไม่นานมานี้ ว่า ต้องยอมรับแบบตรงไปตรงมา ปี2568 เป็นอีกหนึ่งในปีที่ยากที่สุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรอบ20ปี จากปัจจัยกดดันทั้งจีดีพี ที่ซบเซา หนี้ครัวเรือนที่ยังสูง และความสามารถในการกู้ของลูกค้าที่ถดถอย

 สำหรับทางออกของศุภาลัย ท่ามกลางความไม่แน่นอน  เมื่อเศรษฐกิจโลกสั่นคลอน การแข่งขันถดถอย และความเชื่อมั่นลูกค้าสั่นไหว ศุภาลัยกลับมุ่งมั่น เดินหน้า คว้าโอกาสจากวิกฤติด้วยวินัยทางการเงินและความเชื่อใจของลูกค้า

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม

“วันนี้อาจยังไม่หนักเท่าวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2540 แต่ก็ใกล้เคียงเข้าไปทุกที แต่จะสู้ด้วยวินัยการเงิน และฐานที่มั่นคง”

สิ่งที่ทำให้ศุภาลัยยังยืนหยัดได้ ท่ามกลางพายุเศรษฐกิจ คือ "วินัยทางการเงิน" ที่ไม่ได้สร้างกันข้ามคืน แต่ต้องสั่งสมมากว่า 5-10 ปี ทำให้บริษัทมีต้นทุนต่ำ มีสภาพคล่องดี และสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้ทันท่วงที

ตัวอย่างเช่น ในปี  2561 ซึ่งเป็นปีทองของคอนโด ศุภาลัยกลับ “หยุดซื้อที่” ทำคอนโดมาตั้งแต่ปี 2560 เพราะเห็นสัญญาณความร้อนแรงเกินจริงจากการเก็งกำไร และเตรียมรับมือไว้ล่วงหน้า

อย่งไรก็ตามความเชื่อมั่น คือหัวใจธุรกิจอสังหาฯ โดย นายไตรเตชะมองว่า อสังหาฯ คือธุรกิจที่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่ ความเชื่อมั่นของลูกค้าจึงมีมูลค่ามหาศาล การส่งมอบบ้านตรงเวลา มีคุณภาพ และการบริการหลังการขายที่จริงใจ คือหัวใจสำคัญของความยั่งยืน

สะท้อนจากตลาดคอนโดกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ที่เคยพีคสุดถึง 120,000 ยูนิตในปี พ.ศ. 2560 วันนี้เหลือเพียง 60,000 ยูนิต และอาจไม่กลับไปแตะระดับเดิมอีก แต่ซัพพลายที่ลดลง กลับกลายเป็น “โอกาส” ของผู้เล่นที่พร้อม เช่นการซื้อที่ดิน30แปลงโดยไม่มีคู่แข่งซึ่งมองว่าคือโอกาสทองของน่านน้ำดังกล่าว

"ในช่วงปี 2567 ซึ่งยอดขายต่ำที่สุดในรอบ 15 ปี ศุภาลัยเลือกกลับมาเปิดคอนโด เพราะรู้ว่าคู่แข่งหายไปจากตลาด สังเกตได้จากตัวเลขการยื่นขอEIA เหลือเพียงเดือนละ 2 โครงการเท่านั้นจากเดิม 15 โครงการ  ศุภาลัยไม่ได้อยู่รอดเพราะโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์จากการสะสมวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง การใส่ใจพนักงาน คู่ค้า ผู้รับเหมา และลูกค้าที่ผ่านมาถ้าผมทิ้งใครไว้ข้างหลัง เขาจะกลับมาแทงผมแน่นอน"

 

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่ปรับตัวตามสถานการณ์ หาจุดแข็งตัวเอง และมองหาช่องว่างที่ยังไม่มีคนเติม จะสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส

 ดังนั้น โอกาสและทางรอด ต้องหาจุดแข็งตนเองและช่องว่างในตลาด สามารถจะเป็น Success story ได้ นายไตรเตชะกล่าวทิ้งท้าย