“สืบวงษ์ สุขะมงคล” กับสูตรสำเร็จ ปั้นอาณาจักร“มารวย” ในอีอีซี

พื้นที่3จังหวัดเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรืออีอีซี คึกคักขึ้นหลังจากโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐมีความชัดเจน อย่างโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เตรียมลงมือก่อสร้างแม่เหล็กสำคัญดึงดูดนักลงทุนเข้าพื้นที่ส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

 ทั้งนี้ “ฉะเชิงเทรา” หนึ่งในจังหวัดอีอีซี  ถูกกำหนด ให้เป็นเมืองที่อยู่อาศัยชั้นดี รองรับกำลังซื้อที่ขยายตัวมาจากกรุงเทพฯ และเมืองอุตสาหกรรมในพื้นที่ใกล้เคียง ปัจจุบัน มีดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จากส่วนกลาง ปักหมุดพัฒนาโครงการ ไม่ขาดสาย ส่งผลให้ราคาที่ดินขยับสูงต่อเนื่อง 

 อีกหนึ่งผู้เล่นคนสำคัญฐานะเจ้าถิ่น “สืบวงษ์ สุขะมงคล” ประธานกรรมการบริหาร แพทโก้ กรุ๊ป และ บริษัท มารวย เรียลเอสเตท จำกัด ผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ภาคตะวันออก  ภายใต้แบรนด์ “บ้านมารวย”ที่ล่าสุดรีแบรนด์ใหม่  “มารวย  หรือ MARUI” อ่านได้ตามภาษาญี่ปุ่นว่า “มา-รุ-อิ” สื่อความหมายถึงความมั่งคั่ง ความรํ่ารวย เพิ่มความแข็งแกร่ง ตอบโจทย์ คนทุกกลุ่ม

โดยปี 2568  “มารวย” ก้าวสู่ ปีที่35 มีแผนขยายการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่อีอีซี สร้างความได้เปรียบ ด้านคุณภาพซึ่งเป็นจุดแข็ง ที่ผู้บริโภคไว้วางใจ และไม่ลืมให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม   จากความได้เปรียบเรื่องต้นทุน นอกจาก มีแลนด์แบงก์ในมือแล้วยังได้อานิสงส์จากมาตรการทางภาษี ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกหรือ อีอีซี ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปี 2561 รวมถึงมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ สถาบันการเงินลดดอกเบี้ย ช่วยแบ่งเบาต้นทุนการพัฒนา  และ ลูกค้ากู้ได้มากขึ้น ส่วนการปฏิเสธสินเชื่อยอมรับมีผลกระทบตามสถานการณ์เศรษฐกิจ

แต่ “มารวย” ได้ช่วยเหลือลูกค้าด้วยการจับมือกับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรช่วยสกรีนก่อนยื่นขอสินเชื่อและได้รับดอกเบี้ยพิเศษสนับสนุน ที่น่าสนใจ ยังมองหาน่านนํ้าใหม่ ซื้อที่ดินเติมเข้าพอร์ต ในทำเลศักยภาพอย่างต่อเนื่อง อีกกลยุทธ์ที่เป็นหัวใจ คือ การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตรงจุด ก่อนพัฒนาต้องทำการบ้านอย่างเข้มข้นฟังเสียงสะท้อนปัญหาความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มคนทำงานในพื้นที่ 

ดังนั้นทุกโครงการนอกจากตั้งอยู่ในทำเลที่ดีแล้ว ยังพัฒนาโครงการจัดฟังก์ชันที่ดีมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าคู่แข่งแต่ราคาเอื้อมถึง ในทุกกลุ่มสินค้า และแม้แต่เรื่องเล็กๆน้อยๆไม่เคยมองข้ามอย่างพื้นที่เก็บของใต้บันได การขยายพื้นที่ซักล้างให้มีความกว้างกว่าโครงการทั่วไป และสามารถต่อเติมเปลี่ยนเป็นพื้นที่ใช้สอยตอบโจทย์ลูกค้าที่มักซื้อบ้านไปแล้วและนำพื้นที่ซักล้างบริเวณด้านหลังมาต่อเติมเป็นพื้นที่ครัว  หรือดัดแปลงเป็นมุมใหม่ๆของบ้านโดย “มารวย”เข้าใจถึงความต้องการเพิ่มพื้นที่ด้านหลัง ให้ใหญ่ขึ้น เพื่อไม่กระทบกับรถดับเพลิงหากเกิดกรณีฉุกเฉิน  

 ล่าสุดได้เปิดตัวโครงการ ใหม่ “ทรอฟี มอเตอร์เวย์” (TROFY MOTORWAY) ทาวน์โฮมหรูแต่ราคาเอื้อมถึง  บนพื้นที่รวม 13 ไร่  128  ยูนิต  ตั้งอยู่บนทำเล ย่านบางปะกง   ปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจ ที่สำคัญสถาบันการเงินหลายแห่งให้การสนับสนุนปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษ หลังจากประสบความสำเร็จจากโครงการ ทรอฟี บ้านโพธิ์ ที่เปิดตัวเมื่อช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาซึ่งขณะนี้สามารถปิดยอดขายไปมากกว่า 70%

 “สืบวงษ์” ให้สัมภาษณ์ว่า  ตลาดที่อยู่อาศัยในในอีอีซี เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งหลังจาก โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน มีความชัดเจนและคาดว่าจะลงมือก่อสร้างในไม่ช้านี้ โดยรถไฟความเร็วสูง นอกจาก รับส่งผู้โดยสารระหว่างเมืองอีอีซีเข้าสู่กรุงเทพฯ และจากกรุงเทพฯเข้าสู่อีอีซี แล้ว บริษัทมองว่า เป็นจุดขายที่ดีที่ผู้บริโภคตัดสินใจ ซื้อเป็นบ้านหลังแรกหรือหลังที่สอง ใกล้กรุงเทพฯ และสามารถเป็นทางเลือกใช้เส้นทางได้สะดวก โดยใช้รถไฟความเร็วสูง จากฉะเชิงเทราเข้ากรุงเทพฯใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที

ที่สำคัญเกิดความเจริญแผ่ขยายเข้ามา ความต้องการที่อยู่อาศัยมีมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเชิงพาณิชย์ สะท้อนได้จากมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลาง เข้าซื้อที่ดินพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยรองรับจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีความได้เปรียบของทำเล ติดโครงข่ายมอเตอร์เวย์ สาย 7 เชื่อมโยงต่อไปยังมอเตอร์เวย์สาย 9 ถนนวงแหวนนรอบนอก เข้าใจกลางเมืองกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงได้สะดวก  

สำหรับ “ทรอฟี มอเตอร์เวย์” พัฒนาบนทำเลคุณภาพ ต.ท่าสะอ้าน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เชื่อมต่อการคมนาคมที่ตอบโจทย์เวลาให้มีมูลค่าด้วยการเดินทางที่มีศักยภาพ บนทางหลวงมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 รายล้อมสาธารณูปโภคที่ให้ได้ทุกความต้องการ ไม่ว่าจะคอมมูนิตี้มอลล์ -โลตัสบางวัว  ห้างโรบินสัน ฉะเชิงเทรา  โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 11โรงพยาบาลวิภาราม อมตะนคร โรงเรียนสุจิ ปุลิ  โรงเรียนมารดานฤมล นิคมอุตสาหกรรม TFD  นิคมอุตสาหกรรม BLUE TECH  นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมิ ด้วยเวลาเดินทางเพียง 30 นาที รวมถึงมีเส้นทางเชื่อมภาคตะวันออก ไปสู่กรุงเทพฯ ชลบุรี พัทยาระยอง ได้อย่างสะดวกสบาย

นี่คือสูตรสำเร็จนอกจากการมีต้นทุนที่ได้เปรียบและทำเลที่มีศักยภาพแล้ว การเข้าใจความต้องการผู้บริโภคสำคัญยิ่งกว่า!!!

หน้า 20  หนังสือพิมพ์ฐานเศราฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,051 วันที่ 8 - 11 ธันวาคม พ.ศ. 2567