ช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2567 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ แข่งขันชิงกำลังซื้อกันอย่างดุเดือด เพื่อเร่งสร้างผลการดำเนินงาน กำไรให้ออกมาดีที่สุด และลดสต๊อกในมือ ซึ่งแล้วแต่ว่าแต่ละค่ายจะใช้กลยุทธ์อะไร ดึงดูดลูกค้า แต่ที่สำคัญทำอย่างไรให้สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ ซึ่งเชื่อว่าแต่ละค่ายต่างมีเทคนิคต่างๆมากมาย
ไม่ว่าการสกรีนลูกค้า เจาะลูกค้ากลุ่มมีกำลังซื้อจริง รวมถึงมองหาน่านน้ำใหม่เพื่อขยายฐานลูกค้าเช่นเดียวกับ บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW กางผลงานตลาด9เดือน ในปี2567 สร้างกำไรสุทธิ์ เติบโตมากถึง 114% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ASW กล่าวว่า ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย. 2567) บริษัทมีรายได้รวมทั้งหมด 7,800 ล้านบาท เติบโตขึ้น 63% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 (YoY) ส่งผลให้รายได้รวมขณะนี้คิดเป็น 90% ของเป้ารายได้ทั้งปี 2567 ซึ่งตั้งไว้อยู่ที่ 8,700 ล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 114%
สำหรับโครงการที่มียอดโอนกรรมสิทธิ์โดดเด่นในไตรมาส 3/2567 ได้แก่ โครงการเคฟ ทาวน์ ไอส์แลนด์ (Kave Town Island) โครงการแคมปัสคอนโด ใกล้ ม.กรุงเทพ มูลค่า 3,500 ล้านบาท และโครงการเดอะ ไทเทิล ฮาโล 1 (THE TITLE HALO 1) โครงการ Leisure Condominium
ภายใต้การพัฒนาของบริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE บริษัทย่อยในเครือ มูลค่า 1,537 ล้านบาท ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมียอดโอนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยทั้ง 2 โครงการทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 ขณะที่ยอดขายสะสม 9 เดือนแรก บริษัทสามารถทำยอดพรีเซลจากโครงการที่อยู่อาศัยทั้งหมดถึง 14,578 ล้านบาท เติบโต 24% เมื่อเทียบกับปี 2566 และคิดเป็น 82% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ 17,800 ล้านบาท
ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 บริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) รวมประมาณ 23,070 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยสร้างรากฐานที่มั่นคงให้ ASW เพื่อสร้างการรับรู้รายได้อย่างแข็งแกร่งไปจนถึงปี 2569
นายกรมเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุด ASW ได้พิจารณาขยายแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2567 เพิ่มเป็น 13 โครงการ มูลค่าทั้งหมด 36,820 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 42% เมื่อเทียบจากแผนที่ประกาศไว้ช่วงต้นปี และเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วกว่า 22% ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับทิศทางของภาคการท่องเที่ยวที่ส่งสัญญาณบวกตั้งแต่ต้นปี
โดยเฉพาะภูเก็ตที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสม 9 เดือนแรกถึง 7.36 ล้านคน เพิ่มขึ้น 22.57% จากปีที่แล้ว และกระแสตอบรับที่ดีจากการเปิดตัวโครงการตามหัวเมืองท่องเที่ยวในช่วงก่อนหน้า บริษัทจึงเดินหน้าเปิดโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ เน้นเจาะทำเลหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของไทยอย่างพัทยาและภูเก็ตในช่วงโค้งสุดท้ายของปี
ในไตรมาส 4/2567 บริษัทวางแผนเปิดโครงการใหม่ทั้งหมด 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการอควารัส จอมเทียน พัทยา (Aquarous Jomtien Pattaya) โครงการคอนโดมิเนียมหรูสไตล์ Luxurious Staycation Residence รวม 606 ยูนิต ใกล้ชายหาดจอมเทียน มูลค่า 5,000 ล้านบาท 2.เควาลอน (Kavalon) โครงการแคมปัสคอนโดใหม่ล่าสุด จำนวน 2,192 ยูนิต ทำเลดีติดรั้ว ม.กรุงเทพ เจาะกลุ่มนักศึกษา บุคลากร และนักลงทุน มูลค่า 4,500 ล้านบาท 3.เดอะ โมเดวา (THE MODEVA) โครงการ Leisure Residences รวม 859 ยูนิต บนทำเลศักยภาพ ใกล้หาดบางเทาเพียง 500 ม. มูลค่า 6,200 ล้านบาท และ 4.เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา (THE TITLE ARTRIO BANG-TAO) โครงการ Leisure Residences จำนวน 435 ยูนิต ติด Porto de Phuket และใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ มูลค่า 2,600 ล้านบาท
“กลยุทธ์ขยายเข้าสู่น่านน้ำใหม่ที่มีศักยภาพสูงอย่างภูเก็ต ความแข็งแกร่งของแบรนด์ต่างๆ ที่ ASW และ TITLE ช่วยกันพัฒนา จนลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติมั่นใจในคุณภาพ ทำให้เรามียอดขายและรักษาระดับการโอนกรรมสิทธิ์ได้อย่างดีในทุกโครงการ รวมถึงการเสริมพอร์ต Recurring Income ให้เติบโต ด้วยการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ ทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ ASW สามารถสร้างยอดขาย และทำรายได้บรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้ได้อย่างแน่นอน” นายกรมเชษฐ์ กล่าว