นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าถือหุ้นใน บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TITLE ในสัดส่วน 67.94% และเดินหน้าขยายโครงการในภูเก็ตอย่างต่อเนื่อง โดยโฟกัสทำเลหาดบางเทา ในยาง และราไวย์
ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพโดดเด่น เหมาะกับการพัฒนาโครงการสำหรับผู้ต้องการพักผ่อนระยะยาว ด้วยความสวยงามของชายหาดที่ได้รับความนิยมจากทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ
นายพัทธนันท์ พิสุทธิ์วิมล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์ตลาดว่า ตลาดอสังหาฯ ภูเก็ตมีแนวโน้มเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวในปี 2567
โดยศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์คาดว่ามูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบและแนวสูงในภูเก็ตจะขยายตัวราว 7.1% จากปีก่อน ขณะที่ยอดขายคอนโดมิเนียมในครึ่งแรกของปีนี้เติบโตถึง 259.8% โดยเฉพาะในโซนบางเทาและสุรินทร์ที่มียอดขายสูงสุด ซึ่งแสดงถึงความต้องการที่อยู่อาศัยจากชาวต่างชาติที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
และมีมูลค่าทั้งหมดราว 40,190 ล้านบาท เติบโตขึ้น 799% ซึ่งทำเลที่มียอดขายใหม่โดดเด่นมากที่สุดคือ “หาดบางเทา-หาดสุรินทร์” ที่มีจำนวน 2,202 หน่วย หรือคิดเป็น 48.97% ของจำนวนหน่วยยอดขายใหม่ทั้งหมด
นายกรมเชษฐ์ ยังเผยอีกว่า ภาพรวมยอดขายของ ASW ใน 9 เดือนแรกปี 2567 มูลค่าทั้งหมด 14,578 ล้านบาท โดยสัดส่วนที่มาจาก TITLE คิดเป็น 43% ของยอดขายสะสม และปัจจุบัน TITLE มี Backlog สะสมถึง 8,022 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ปี 2567 จนถึงปี 2570
จากความสำเร็จดังกล่าวและการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ASW จึงได้ปรับแผนเปิดตัวโครงการ Leisure Residences ในภูเก็ต โดยเปิดโครงการใหม่รวม 4 โครงการซึ่งมากกว่าแผนที่วางไว้ มูลค่าโครงการทั้งหมด 15,500 ล้านบาท ได้แก่
เดอะ ไทเทิล เชียโล่ ราไวย์ (THE TITLE CIELO RAWAI) มูลค่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายสูงถึง 90% หลังเปิดตัวเพียงหนึ่งสัปดาห์, เดอะ โมเดวา (THE MODEVA) ที่หาดบางเทา มูลค่า 6,200 ล้านบาท, เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา (THE TITLE ARTRIO BANG-TAO) มูลค่า 2,600 ล้านบาท เตรียมเปิดขายในเดือนตุลาคม และ คาตาเบลโล (KATABELLO) ในกะตะ มูลค่า 5,500 ล้านบาท มีแผนเปิดขายอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2568
ทำให้ปัจจุบัน ASW และ TITLE มีคอนโดมิเนียมที่พัฒนาร่วมกันทั้งสิ้น 8 โครงการ มูลค่ารวม 31,500 ล้านบาท และเชื่อว่าผลงานใหม่ทั้ง 4 โครงการจะช่วยเพิ่มยอดขายช่วงไฮซีซันได้อีกราว 5,000 ล้านบาทในปีนี้
นายเวคิน ตั้งกุลวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงโครงการใหม่ว่า เดอะ โมเดวา เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 6 อาคาร และ Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 859 ยูนิต บนพื้นที่ราว 15 ไร่ ใกล้หาดบางเทาเพียง 500 ม. และยังเป็นครั้งแรกของแบรนด์ THE TITLE ที่พัฒนาอาคารที่พักอาศัยที่มีโซน Pet-Friendly ภายในโครงการ เพื่อตอบโจทย์คนรักสัตว์ ราคาเริ่มต้น 4.1-18.7 ล้านบาท
โดยในโครงการมีห้องพัก Fully Fitted ให้เลือก 11 รูปแบบ ขนาด 29-148 ตร.ม. รวมถึงมีห้อง Penthouse ใหญ่สุด 148 ตร.ม. พื้นที่ส่วนกลางอีก 7,458 ตร.ม. ทั้งโซน Indoor กว่า 26 รายการ เช่น Business Lounge, Co-Kitchen, Health Center, Salon, Kid’s Club, Theater Room, Onsen
และโซน Outdoor ถึง 33 รายการ อาทิ สระว่ายน้ำหลากฟังก์ชันขนาดใหญ่ล้อมทุกอาคาร, Hydrotherapy, Private Outdoor Living Lounge พร้อมโซนสำหรับสัตว์เลี้ยง Pet Grooming และ Pet Zone ในอาคาร Pet-Friendly
ขณะที่ เดอะ ไทเทิล อาร์ทริโอ บางเทา เป็นโครงการ Leisure Residences สูง 7 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และอาคาร Pet-Friendly อีก 1 อาคาร รวม 435 ยูนิต บนที่ดินประมาณ 6 ไร่ ใกล้กับ Porto de Phuket ห้องพักภายในอาคารเป็นแบบ Fully Fitted มีขนาดตั้งแต่ 28-132 ตร.ม. โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 4.23 - 19.67 ล้านบาท
และยังมีพื้นที่ส่วนกลางกว่า 41 รายการ ได้แก่ Feature Art Wall, Sculptural Playground, Waterfall, Floating Pool Terrace และภายในอาคารมี Health Care, Live Studio, Library Lounge, Kid Space, Onsen, Boxing Area และโซนสำหรับสัตว์เลี้ยงเช่น Pet Grooming และ Pet Pool & Playground
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เปิดตัวบริการ The Esquire ที่ให้บริการด้านการบริหารจัดการทรัพย์สิน (Property Management) ครอบคลุมการบริหารภายในโครงการ การจัดหาและประสานผู้เช่า บริการซักรีด รวมถึงการทำความสะอาดห้องพัก เพื่อดูแลคุณภาพการอยู่อาศัยให้แก่ผู้อยู่อาศัยในโครงการ THE TITLE