เทขายบิ๊กล็อต New Normal ธุรกิจอสังหาฯ

26 ส.ค. 2567 | 06:16 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ส.ค. 2567 | 06:21 น.

เทขายบิ๊กล็อต New Normal ธุรกิจอสังหาฯ หลังกำลังซื้อซบเซาจากเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่พุ่งสูงครึ่งแรก โดย 3 สมาคมอสังหาฯ ประสานเสียง กำลังซื้อไม่น่าจะกลับมาง่าย ๆ เพราะปัจจัยเศรษฐกิจทั้งภายในภายนอกประเทศ ไม่สู้ดี

กระแสการขายบิ๊กล็อต ในกลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะอาคารชุด เริ่มมีออกมาให้เห็นตั้งแต่กลางปี 2566 จนกระทั่งปีนี้ ก็มีเคสการขายบิ๊กล็อตออกมาให้เห็นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)  ขายบิ๊กล็อตไป 2 โครงการ 415 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 1,023 ล้านบาท ให้แก่ DELTA เช่นเดียวกับกรณีของ บมจ. แอล.พี.เอ็น. (LPN) ล่าสุด ที่ที่จัดการสต๊อกไปได้กว่า 2,000 ล้านบาทผ่านการขายบิ๊กล็อต และยังมีผู้พัฒนาอสังหาฯ อีกจำนวนไม่น้อยที่ขายบิ๊กล็อตในช่วงที่ผ่านมา

นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต นายกสมาคมอาคารชุดไทย มีมุมมองกับเรื่องนี้ว่า เป็นไปตามกลไกของตลาดที่ซบเซาในช่วงนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ดำเนินธุรกิจอสังหาฯ มีการปรับตัวที่ดี เพราะการขายบิ๊กล็อตบางส่วน มีกำลังซื้อจากต่างชาติเข้ามาพอสมควร ดังนั้น ผู้พัฒนาต้องปรับตัวตามโลก ซึ่งประเทศไทยเป็น “โกลบอล พร็อพเพอร์ตี้” ที่มีความพร้อมในการรองรับดีมานด์ต่างชาติที่เข้ามาในประเทศได้เป็นอย่างดี ถือเป็น “ทางรอด” ของผู้ประกอบการอสังหาฯในการประคับประคองยอดขาย

 

ทั้งนี้ ในฐานะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บมจ. อนันดา ระบุว่า ปี 2566 อนันดา มียอดขายแบบบิ๊กล็อตราว 10% ของพอร์ต มูลค่าราว 2 พันล้านบาท ก็ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีอะไรน่าแปลกใจ

ทั้งนี้ อสังหาฯในไทย มีต่างชาติเข้ามาสนใจลงทุน หรือ อยู่อาศัยจำนวนมาก จนกลายเป็น Investment Asset ที่ดี ส่วนมากก็จะมีเข้ามาซื้อแบบบิ๊กล็อต นำไปปล่อยเช่า หรือไม่ก็ถือครองไว้ รอราคาขึ้น (Upside Gain)

 

ด้านนายพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย กล่าวว่า การซื้อ-ขายบิ๊กล็อต ไม่ผิดปกติ เพราะบริษัทอสังหาฯนำออกมาขายในราคาที่ถูกกว่าราคาขายปลีกอยู่แล้ว ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด

“สินค้าใหม่ ก็วางขายบนเชล์ฟ เมื่อเวลาผ่านไป ขายไม่ออก ก็ต้องเอาลงจากชั้นวางของ แล้วนำใส่กล่องไปเลหลังขายในราคาที่ถูกลง แต่ขายเยอะขึ้น ภาคธุรกิจไม่มีใครไม่อยากได้เงินสดไว้ในมือ ทุกรายก็ทำเพื่อเอาตัวรอดในสถานการณ์กำลังซื้อซบเซาแบบนี้”

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ซื้อบิ๊กล็อตไปนั้น ก็มีวัตถุประสงค์การซื้อหลากหลายประเภท เช่นนำไปเป็นที่อยู่อาศัยให้พนักงาน หรือนำไปปล่อยเช่าต่อ ไปจนถึงนำไปขายต่อ ทั้งนี้ ยืนยันว่า การขายแบบบิ๊กล็อต แม้จะเป็นเรื่องปกติ แต่เกิดขึ้นในสถานการณ์และจังหวะเวลาที่ไม่ค่อยปกติ เพราะกำลังซื้อหดหายไป ผู้พัฒนาทุกรายยอดขายตํ่ากว่าเป้าเกือบหมด