บริทาเนีย เสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ ลุยเปิดโปรเจ็กต์ 2.25 หมื่นล้าน

19 เม.ย. 2566 | 06:37 น.

“บริทาเนีย” เสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 ชุด อายุ 2 ปี และ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.00-4.70% ต่อปี 18-19 พ.ค. และ 22 พ.ค. เดินหน้า ปักธง ผู้นำบ้านจัดสรรระดับท็อป หลังกางแผนธุรกิจ เปิดตัวโครงการใหม่สูงสุด 20 โครงการ มูลค่ารวม 22,500 ล้าน

19 เมษายน 2566 - นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน เปิดเผยว่า ทางบริทาเนียเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย 

  • หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2568 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี 
  • ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2569 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.70% ต่อปี

กำหนดจ่ายดอกเบี้ยในอัตราคงที่ทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท
 

บริทาเนีย ขายหุ้นกู้ 18-19 พ.ค. และ 22 พ.ค.

โดยคาดว่าหุ้นกู้ของบริษัทจะเสนอขายระหว่างวันที่ 18 – 19 และวันที่ 22 พ.ค. 2566 นี้ โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ ซื้อที่ดินเพื่อรองรับการพัฒนาโครงการใหม่เพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บริษัท และชำระเงินกู้ยืมคืนให้กับบริษัทใหญ่

ขณะเดียวกัน บริทาเนียและหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2565 ที่ระดับ “BBB” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ซึ่งเป็นระดับลงทุนได้หรือ Investment Grade สะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของบริทาเนียที่เป็นผู้นำในการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง 

เดินหน้า สู่ ผู้พัฒนาบ้านจัดสรรระดับท็อป เป้ารายได้ 9 พันล้าน

นายสุรินทร์ กล่าวอีกว่า ในปี 2566 บริษัทดำเนินงานภายใต้กลยุทธ์  “B To The Top” มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจพัฒนา บ้านจัดสรรระดับท็อปใน 3 มิติ ได้แก่ 1.B The Growth ก้าวสู่ระดับท็อปของตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการเปิดตัวโครงการใหม่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท (All Time High) จำนวน 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 22,500 ล้านบาท 2.B The Craft มุ่งมั่นสู่การเป็นแบรนด์บ้านจัดสรรระดับท็อปในใจผู้บริโภค (Top of Mind Brand) ด้วยวัฒนธรรมองค์กร Craft Mindset อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งมอบประสบการณ์ที่ลูกค้าให้คุณค่า (Customer Value) ในการสร้างสรรค์ ดูแล และบริการที่ยกระดับให้แก่ผู้บริโภค ผ่านนวัตกรรมการอยู่อาศัย และ 3.B The Goodnessมุ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบต่อสังคม ทั้งในโครงการและชุมชนรอบด้าน ตลอดจนเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero ในปี 2050

“เราเชื่อมั่นว่าการเสนอขายหุ้นกู้ของ BRI ทั้ง 2 ชุด จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เพราะสามารถตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยผู้ออกหุ้นกู้ที่มีความมั่นคง ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือระดับ Investment grade พร้อมทั้งแผนการสร้างการเติบโตแบบ All Time High เป้าหมายยอดขายสูงสุด 13,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม 9,000 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจตลอดการถือครอง” นายสุรินทร์ กล่าว