SHR โกยรายได้ครึ่งปีแรก 3.76 พันล้าน มั่นใจทั้งปีเกินเป้า 8.5 พันล้าน

13 ส.ค. 2565 | 14:14 น.

SHR โชว์ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นทุกพอร์ต โกยรายได้ครึ่งปีแรกที่ 3.76 พันล้านบาท มั่นใจผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังเติบโตโดดเด่น ดันให้รายได้ทั้งปี 2565 เกินเป้าที่ 8.50 พันล้านบาท

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘SHR’ บริษัทในเครือสิงห์ เอสเตท เปิดเผยผลประกอบการครึ่งปีแรก มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,761 ล้านบาท เติบโตเกือบ 3 เท่าจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน พร้อมรายงานผลกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำ จากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 639 ล้านบาท ซึ่งเป็นการรายงานผลกำไรติดต่อกันเป็นไตรมาสที่สี่

 

นายเดิร์ก อังเดร ลีน่า เดอ คุยเปอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอส โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท

โดยปัจจัยหลักจากการเปิดประเทศเต็มรูปแบบในทุกพอร์ตที่บริษัทฯ ดำเนินงาน ซึ่งนอกจากโรงแรมใน CROSSROADS และพอร์ตโรงแรมในสหราชอาณาจักร ที่ยืนยันผลการดำเนินงานที่โดดเด่นมาได้ต่อเนื่องแล้ว คือพอร์ตโรงแรมที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ

 

สำหรับประเทศไทยภายหลังจากการเปิดประเทศในเดือนกรกฎาคมมีตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาทะลุ 1 ล้านคนเป็นเดือนแรกนับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในปี 2563 ทำให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดการณ์ว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติสะสมทั้งปี 2565 อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านคน

ส่งผลให้ในเดือนดังกล่าว โรงแรม SAii Laguna Phuket มี Occupancy Rate ที่ 68% และคาดว่าพอร์ตโรงแรมในประเทศไทยจะสามารถสร้างรายได้ที่เติบโตขึ้นเกือบสองเท่าตัวในช่วงครึ่งปีหลังของปี  

 

เช่นเดียวกับสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิ ที่จำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศในเดือนมิถุนายนเติบโตในระดับ 73% เทียบกับช่วงก่อนการเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยโรงแรมของบริษัทฯ ในสาธารณรัฐหมู่เกาะฟิจิโชว์ผลการดำเนินงานที่โดดเด่นกว่าอุตสาหกรรม

 

โดยเฉพาะโรงแรม Castaway Island, Fiji มีระดับ Occupancy Rate เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 84% ในเดือนมิถุนายนและสามารถดึง RevPAR สูงขึ้นได้ประมาณ 5% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนเกิดโควิด-19 ได้สำเร็จ

 

นายเดิร์ก กล่าวอีกว่า เริ่มเห็นการฟื้นตัวของการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ ของอุตสาหกรรม MICE (Meetings, Incentive Travel, Conventions, Exhibitions) ทั้งในสหราชอาณาจักร สาธารณรัฐมัลดีฟส์ และประเทศไทย จากปริมาณการจัดงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีแรกและการจองสถานที่จัดงานในช่วงครึ่งปีหลัง จึงคาดว่าอุตสาหกรรม MICE ในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้ดีกว่าครึ่งปีแรก ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งเครื่องยนต์สำคัญที่จะขับเคลื่อนให้รายได้ในปี 2565 ให้เติบโตขึ้น

 

“กลยุทธ์เหล่านี้ที่กล่าวจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสริมที่ช่วยขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน และจะเป็นกลไกที่สำคัญในการเติบโตของพอร์ตในครึ่งปีหลัง และปีต่อๆ ไป ทำให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ของปี 2565 ที่วางไว้ราว 8,500 ล้านบาท และก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจบริหารจัดการโรงแรมที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย” นายเดิร์ก กล่าว

 

ปัจจุบัน SHR มีสัดส่วนรายได้จากช่องทางการจองที่พักโรงแรมโดยตรง (Direct Booking) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 20% ในครึ่งปีแรก จากเดิมในปี 2561 ถึง 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 10% โดยตั้งเป้าที่จะผลักดันสัดส่วนของ Direct Booking ให้ขึ้นไปที่ 30% ภายในสิ้นปี