พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

24 ก.ค. 2565 | 06:18 น.

พลิกมุมคิด ฉีกกรอบ 'เศรษฐา ทวีสิน' เจ้าพ่ออสังหาฯ สู่ คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด' ผ่าอนาคต ท่องเที่ยวไทย มีดีเทียบชั้นระดับโลก โอกาสที่ต้องคว้า รุกขยายโมเดลธุรกิจ ผ่าน แบรนด์ บังค์เฮาส์ สร้างโรงแรม one-of-a-kind เจาะเมืองรองทั่วประเทศ

24 กรกฎาคม 2565 - จากคาดการณ์ที่ว่า 'อุตสาหกรรมท่องเที่ยว' ไทย จะกลับมาฟื้นตัว อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังทุกประเทศปลดล็อกการเดินทาง ภายใต้สถานการณ์ โควิด-19 คลี่คลาย โดยประเมิน จำนวนการเข้าพักของ 'นักท่องเที่ยวต่างชาติ' ต่อทริปในไทย จะเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม สร้างเม็ดเงินมหาศาลนั้น

 

ทำให้วันนี้ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว - โรงแรม ที่เคยอ่อนแรง ชะลอตัวไปมากกว่า 2 ปี กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งกำลังวางแผนขยายพอร์ตโรงแรม ยึดหัวหาดของเมืองเป้าหมาย ทั้งการไล่ช้อปโรงแรมขนาดเล็ก ที่ขาดสภาพคล่อง มาปรับโฉมปั้นใหม่ และการเข้าไปร่วมลงทุนกับเจ้าของที่ดิน ที่กำลังมองเห็นโอกาสแห่งอนาคต

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

ความเคลื่อนไหวข้างต้น ยังถูกรุกคืบ โดยกลุ่ม 'เดอะ แสตนดาร์ด (The Standard) แบรนด์โรงแรมดัง จากฝั่งสหรัฐอเมริกา ที่ขึ้นชื่อความเป็นแฟชั่น ดีไซน์ โฮเทล ภายใต้ เป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของ อสังหาฯเบอร์ใหญ่ในไทย ' บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ' ซึ่งเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ถึง 62% หลังจากประเดิมผลักดัน The Standard หัวหิน เข้าสู่ตลาดประเทศไทย อย่างถูกที่ถูกเวลา เมื่อปลายปี 2564 จนปัจจุบัน กลายเป็นโรงแรมบีชฟร้อนแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ท็อปฟอร์มทำกำไรสูงสุด ด้วยอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 80% และยอดจองเข้าพักเต็มทุกเทศกาลวันหยุดยาวจนถึง ณ สิ้นปี 

 

วันนี้ เป้าหมายใหญ่ของเดอะสแตนดาร์ด นอกจาก จะวางแผนขยายพอร์ตโรงแรมทั่วโลกแล้ว ยังหวังจะผลักดัน 'การท่องเที่ยวไทย' เทียบชั้นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และสร้าง Multiplier effect ขับเคลื่อนธุรกิจอื่นๆอีก ด้วย ทั้งนี้ 'ฐานเศรษฐกิจ' ร่วมสัมภาษณ์พูดคุยกับ คีย์แมนคนสำคัญ 'เศรษฐา ทวีสิน' ฐานะประธานกรรมการ สแตนดาร์ด อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัทแม่ของเครือโรงแรม เดอะสแตนดาร์ด ซึ่งกางโมเดลธุรกิจในมิติต่างๆไว้อย่างน่าสนใจ 

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

ผ่าโอกาสท่องเที่ยวไทย 

นายเศรษฐา ระบุว่า จากโอกาสของธุรกิจท่องเที่ยวทั่วโลกที่กลับมา หลังจากนักท่องเที่ยวฟื้นความเชื่อมั่น โดยเฉพาะตลาดฝั่งสหรัฐอเมริกาและยุโรป โดยสร้างอัตราค่าห้องพักต่อคืน สูงเป็นประวัติศาสตร์  จากดีมานด์อัดอั้น ส่งผลให้ เดอะสแตนดาร์ด ทำรายได้เติบโตกว่า 128%  (จากโรงแรมแล้วเสร็จ 17 แห่ง) 

 

ซึ่งภาพดังกล่าว กำลังจะเกิดขึ้นในประเทศไทย จากศักยภาพหลายๆด้านที่เหนือชั้นกว่ามาก เพราะมีความพร้อม ด้านบุคลากร ,สนามบิน ขาดเพียงน้ำหนัก ที่อาจต้องอาศัยความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล และ ภาคธุรกิจ เพิ่มดีกรีความสำคัญ เช่น ในแง่รูปแบบของโรงแรม ,จำนวนเที่ยวบิน และ เส้นทางการบินใหม่ๆ รวมถึง ระบบรองรับทางสาธารณสุข สำหรับชาวต่างชาติ 

 

"ประเมินศักยภาพท่องเที่ยวไทย เราไม่เคยเป็นด้อยรองใคร เพียงแต่ไม่ก้าวไปไม่ถึง ทั้งๆที่เป็นกลไกสำคัญทางเศรษฐกิจ ยิ่งขณะนี้ได้อานิสงส์ จากค่าเงินบาทอ่อน ,ไทยมีนโยบายอยู่ร่วมกับโควิดอย่างรัดกุม มองโอกาสระยะสั้น 3-9 เดือน จะทำให้ไทยเป็นที่สนใจในสายตานักท่องเที่ยวต่างชาติมาก " 

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

ฉะนั้น เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวกลายเป็น 'บ่อทอง' หัวหอกหลักในการฟื้นเศรษฐกิจไทย ข้อจำกัด และมาตรการสนับสนุนบางอย่าง โดยรัฐ จึงต้องเกิดขึ้นพร้อมๆกันด้วย โดย นายเศรษฐา ระบุว่า เป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยปี 2565 ที่ 9-10 ล้านคนนั้น มีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับช่วงปี 2562 ที่ไทยเคยมีนักท่องเที่ยวสูงเกือบ 40 ล้านคน ส่วนหนึ่งมาจากฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่อย่างชาวจีน ยังไม่เปิดการเดินทาง แต่ในอนาคตนี่คือโอกาสครั้งใหญ่ 

 

จึงเสนอว่า ในแนวทางที่ง่ายที่สุด รัฐบาลควรเร่งพิจารณา การยกเว้นวีซ่า (VISA)ให้ชาวจีน ซึ่งคล้ายกับกรณี ประเทศญี่ปุ่น ยกเว้นให้คนไทย ซึ่งจะเพิ่มความง่าย ชักชวนชาวจีน ให้เข้ามาท่องเที่ยวในไทย และสร้างรายได้ให้ระบบเศรษฐกิจ หากกรณี รัฐบาลยังหวั่นเรื่องความมั่นคง ทางออก คือ การจำกัดสิทธิ์ และจำนวน เป็นต้น 

 

ท่องเที่ยวระยะยาว โอกาสใหม่ที่ต้องคว้า

เจ้าพ่ออสังหาฯ ยังประเมินว่า อีก 3-5 ปีข้างหน้า ธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลก จะเปลี่ยนไป โดยมีอิทธิพลของกลุ่มคนรุ่นใหม่ กำลังซื้อสูง ท่องเที่ยวแบบลักซ์ชัวรี่ และอีกกลุ่ม งบประมาณไม่มาก แต่ยังต้องการไลฟ์สไตล์ในการท่องเที่ยว นิยมเข้าพักมากกว่า 4 คืนต่อครั้ง พบแนวโน้มเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น 

 

อย่างไรก็ตาม ไทยอาจพลาดโอกาส เนื่องจาก ภาพรวมโรงแรมเน้นความใหญ่โต จำนวนห้องพักมาก แต่ขาดไลฟ์สไตล์กลางวันและกลางคืนรองรับ ทั้งนี้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการโปรโมท และเพิ่มสายการบินในเส้นทางใหม่ๆ เพื่อเปิดโอกาสเมืองรอง ที่มีศักยภาพในการพักผ่อนได้ระยะยาวขึ้น 

 

"ไทยมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก แต่การเป็นการพักระยะสั้น ไม่เกิน 3-4 วัน ทำให้สูญเสียโอกาสในการสร้างเม็ดเงิน บางจังหวัดขาดโรงแรมดีๆ สร้างค่าห้องพักต่อคืนได้ต่ำ เพราะการโปรโมทยังไม่ดีเท่าที่ควร "

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

กางโมเดลดัน 'บังค์เฮ้าส์' เจาะเมืองรอง

ในแง่การต่อจิกซอว์ธุรกิจ ปั้นพอร์ตโรงแรม ขนาน ธุรกิจที่อยู่อาศัย นายเศรษฐา ฉายภาพสอดคล้องกับโอกาส ว่า โมเดลการขับเคลื่อน แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ 1.การเข้าไปลงทุนเอง (ตัวอย่าง : เดอะสแตนดาร์ดหัวหิน) 2.การร่วมลงทุนกับโอนเนอร์ หรือ เจ้าของที่ดิน-อาคาร (ตัวอย่าง : เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร ร่วมกับกลุ่มคิง เพาเวอร์  ) และ 3.กลุ่มบริหารโรงแรม ผ่านเชน 'Bunkhouse' 

 

โดยจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและธุรกิจท่องเที่ยวต่างๆของรัฐบาล เช่น การ ยกเลิก Thailand pass, การเปิดรับ Long-term Resident visa และ การผ่อนคลายมาตรการโควิด ทำให้พบว่า นอกจากแนวโน้ม จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้นแล้ว ขณะนี้นักลงทุน และเจ้าของโรงแรมก็ตื่นตัว แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่า โรงแรมขนาดเล็กทั่วประเทศ หลายรายประสบปัญหาสภาพคล่อง หลายแห่งอยากปรับโฉม รีโนเวทใหม่ แต่ขาดพาร์ทเนอร์ และเชนบริหารจัดการที่ดีที่จะเข้าไปดูแล 

 

ทั้งนี้ กลุ่มสแตนดาร์ด ต้องการเข้าไปปลุกสีสันในหัวเมืองรองต่างๆ ผ่านการนำแบรนด์โรงแรมบูทีคโฮเทล‘Bunkhouse’ ขนาดเล็ก 30-40 ห้องต่อแห่ง เข้าไปสร้างเอกลักษณ์ใหม่ ผสมผสานระหว่างศิลปะ แฟชั่น ดนตรีและไนท์ไลฟ์ คาดจะมีเจ้าของโรงแรม นักลงทุน หรือ เจ้าของที่ดิน ให้การตอบรับสูง

 

โดยวางเป้าหมายระยะ  2-3 ปี ข้างหน้า เจาะ เมืองชายหาด พัทยา ,ระยอง ,ชุมพร และ เมืองที่มีวัฒนธรรมแอบแฝง เช่น อยุธยา สุโขทัย ผ่านการบริหารผลตอบแทนร่วมกัน ด้านเจ้าของได้รีสตาร์ทธุรกิจผ่านการใช้แบรนด์ใหม่ การตลาดแบบใหม่ ส่วนภายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใหม่ ขณะนี้มีการเจรจาเซ็นต์สัญญาราว 6 แห่ง ซึ่งจะเป็นส่วนผลักดัน เป้าหมายเพิ่มพอร์ตโรงแรมทั้งหมด 20แห่งทั่วโลก ในช่วง 2-3 ปี ของเดอะสแตนดาร์ด

 

" เป็นโจทย์ร่วมกันระหว่างโอนเนอร์ ถ้ามี DNA ที่สอดคล้องกัน ความน่าสนใจของโมเดลนี้ คือ ต้นทุนการพัฒนาโรงแรมที่ใช้งบไม่สูงมาก เราเองสามารถขยายโรงแรมไปยังหัวเมืองท่องเที่ยวต่างๆ ได้รวดเร็ว ขณะการจองห้องพักผ่านเครือข่ายสแตนดาร์ดโดยตรง โดยไม่ผ่านเอเยนซี่ จะทำให้โอนเนอร์ ได้รับรายได้เต็มๆ อีกทั้งรูปแบบโรงแรมไม่ชนกับเชนใหญ่ในตลาด "

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'

การเปิดตัวโรงแรมใหม่ทั่วโลก ในเมืองท่องเที่ยวหลัก ที่น่าจับตามองมากที่สุดในเวลานี้ คือ การเตรียมบริการ โรงแรม เดอะ สแตนดาร์ด แบงค็อก มหานคร 29 กรกฎาคม ซึ่งนายเศรษฐา ประเมินไว้ว่า จะเปิดตัวโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในโลก ภายใต้ภาวะสถานการณ์โควิด-19 จากความเงียบเหงาของตลาด ซึ่งจะกลายเป็นอีกไอคอนนิก สวยแห่งหนึ่งในประเทศไทยจากดีไซน์ระดับโลก ผ่านการปรับโฉม ดีไซน์ใหม่ ในรูปลักษณ์ที่เด่นชัด และมีความแตกต่างหาตัวเทียบยาก 

 

" อสังหาฯในไทยจะเดินต่อไปไม่ได้ หากประเทศไม่เติบโต วันนี้ การขยับของพอร์ตโรงแรม สแตนดาร์ด กำลังทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ สร้างความโดดเด่นและเม็ดเงินหมุนเวียนให้ระบบเศรษฐกิจไทย" 

 

คือ ประโยคทิ้งท้าย ที่ เจ้าพ่ออสังหาฯ ซึ่ง ควบตำแหน่งประธานกรรมการพอร์ตโรงแรมใหญ่อย่างน่าจับตามอง รายนี้ กล่าวทิ้งท้ายไว้ในบทสนทนา ...

พลิกมุมคิด 'เศรษฐา ทวีสิน' คีย์แมน โรงแรม 'เดอะ สแตนดาร์ด'