ลุยก่อสร้างเฟสแรก "ไฮสปีดอีอีซี " 170กิโล “สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา”

24 ธ.ค. 2564 | 08:47 น.

ลุยก่อสร้าง ไฮสปีดอีอีซีเฟสแรก ต้นปี2565   หลังรฟท.ส่งมอบพื้นที่ในช่วงสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภาให้กับเอกชนคู่สัญญา 170 กิโลเมตร เรียบร้อยแล้ว กระทรวงคมนาคม รับมอบนโยบาย กพอ. ติดตามความเรียบร้อย การส่งมอบ พร้อมเร่งรัดในช่วงอื่น  

 

 

 

รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมระบุว่า  ภายหลังการถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค เพื่อก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน(ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เฟสแรกช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา ระยะทาง170กิโลเมตร

จากระยะทางรวมทั้งหมด220กิโลเมตร ให้กับ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด (Asia Era One Co., Ltd)หรือบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบินจำกัดในเครือซีพี ผู้รับสัมปทาน 50 ปี ก่อสร้างและบริหารโครงการฯวงเงิน 224,544 ล้านบาท นับตั้งแต่วันที่24ตุลาคม2564เป็นต้นมา โดยคาดว่าต้นปีหน้าเอกชนรายดังกล่าวจะเข้าพื้นที่เริ่มดำเนินโครงการได้

 

 

ลุยก่อสร้างเฟสแรก "ไฮสปีดอีอีซี " 170กิโล “สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา”

 

 

 

 

 

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเร่งรัดการส่งมอบพื้นที่และการรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ครั้งที่ 7/2564 (ครั้งที่ 18) ตามที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการส่งมอบพื้นที่ และเตรียมเดินหน้าก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ณ ห้องประชุมกระทรวงคมนาคม และผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2564

ที่ประชุมรับทราบความก้าวหน้าโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยมีความก้าวหน้าที่สำคัญ คือ การส่งมอบพื้นที่ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ส่งมอบพื้นที่ในช่วงสนามบินสุวรรณภูมิถึงสนามบินอู่ตะเภาให้กับเอกชนคู่สัญญา ระยะทาง 170 กิโลเมตร เรียบร้อยแล้ว

ตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2564 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลการรื้อย้ายทรัพย์สิน รฟท. และการส่งมอบพื้นที่พร้อมส่งมอบฯ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ระหว่าง รฟท. กับ เอกชนคู่สัญญา ส่วนการเวนคืนที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ การโยกย้ายผู้บุกรุก และงานรื้อย้ายสาธารณูปโภค หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่กำหนดไว้

นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ได้กล่าวขอบคุณหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และขอให้ทุกหน่วยงานดำเนินงานตามระเบียบ กฎหมาย ให้ถูกต้องและครบถ้วนทุกขั้นตอน เพื่อให้งานสำเร็จตามแผนงานที่ได้กำหนดไว้  และขอให้ทุกหน่วยงานให้ความสำคัญกับการก่อสร้างที่สร้างผลกระทบต่อประชาชน ขอให้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับประชนอย่างใกล้ชิด