ก่อนลงทุนอสังหาฯ ใน EEC ต้องรู้อะไรบ้าง

13 พ.ย. 2564 | 03:23 น.

ก่อนลงทุนอสังหาฯ ใน EEC ต้องรู้อะไรบ้าง ท่ามกลาง สถานการณ์โควิด-19 รัฐบาลบิ๊กตู่ เร่งขับเคลื่อน โครงการขนาดใหญ่รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน สนามบินอู่ตะเภา พลิกโฉมภาคตะวันออกของไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งใหม่

 

รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC)  มุ่งเน้นการพัฒนาให้ภาคตะวันออกของประเทศไทย กลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวแห่งใหม่

มีทั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรม รถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)  ท่าเรือ สนามบิน ฯลฯ การพัฒนาดังกล่าวจะดึงดูดผู้คนทั้งไทย และต่างชาติให้หลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงเป็นโอกาสดีสำหรับการลงทุนอสังหาฯ เพราะที่ไหนมีคน มีงาน มีเมือง ที่นั่นย่อมต้องการที่พักที่อยู่อาศัย

ก่อนลงทุนอสังหาฯ ใน EEC ต้องรู้อะไรบ้าง

 

ทั้งนี้ แม้ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นใจ แต่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 การลงทุนอสังหาฯ ใน EEC ยังมีสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ ดังต่อไปนี้

 

  1. เลือกกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน

ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจใน EEC ส่งผลให้มีทั้งชาวต่างชาติ และคนไทยต่างถิ่นมุ่งหน้าหลั่งไหลเข้าไปในพื้นที่ ทั้งผู้ที่ไปอยู่เป็นประจำเพราะย้ายถิ่นทำงาน และผู้ที่ไปแบบชั่วคราว คืออาจจะทำงาน หรือไปเที่ยวพักผ่อนในสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ที่จะเกิดขึ้นก็ได้ ดังนั้น การคิดจะลงทุนอสังหาฯ ใน EEC จึงควรโฟกัสตั้งแต่เริ่มให้ชัดเจนว่า

มุ่งเน้นจับกลุ่มเป้าหมายแบบใด เพราะ ชาวต่างชาติที่มาทำงานใน EEC ก็จะมีรสนิยมในการเลือกที่พัก หรือที่อยู่อาศัยแบบหนึ่ง แต่ละชาติก็แตกต่างกันไป ส่วนคนไทยที่ย้ายถิ่นมาทำงาน ก็จะมีความต้องการอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นก็ยังแบ่งย่อยลงไปให้ลึกอีกได้ว่า จะเน้นจับกลุ่มครอบครัว หรือว่ากลุ่มคนโสด ฯลฯ ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีความต้องการอสังหาฯ ที่แตกต่างกัน

ดังนั้น หากเราเลือกเป้าหมายได้ชัด การเลือกรูปแบบอสังหาฯ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด เพื่อปล่อยเช่า หรือขายต่อของเรา ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จ ตอบโจทย์ตรงใจลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น

2.เลือกทำเลอย่างพิถีพิถัน

คำว่า EEC นั้น หมายรวมถึงพื้นที่ 3 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่ ชลบุรี ระยอง และฉะเชิงเทรา ซึ่งแม้ภาพรวมจะมองได้ว่าภาคตะวันออกได้รับการพัฒนาทั้งหมด แต่กับการลงทุนอสังหาฯ แล้ว การเลือกทำเลที่ดีย่อมมีโอกาสทำให้ประสบความสำเร็จได้ง่ายมากกว่า จึงควรโฟกัสให้ดีก่อนว่าจะเลือกลงทุนในจังหวัดใดของ EEC และพื้นที่ใดที่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากที่สุด

อาทิ อาจโฟกัสไปที่ อำเภอใหญ่ ๆ ของแต่ละจังหวัดเป็นหลัก เช่น สัตหีบ ศรีราชา ในชลบุรี หรือ หรืออำเภอเมืองระยอง ในจังหวัดระยอง เป็นต้น เพราะเมืองใหญ่ ๆ จะเป็นแหล่งกระจุกของความเจริญที่สุด จึงทำให้มีโอกาสมากกว่า แต่เราก็ต้องทำการบ้านศึกษาข้อมูลในแต่ละพื้นที่ด้วยว่า ความเจริญใดบ้างจะไปถึงตรงนั้น เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจให้ได้แม่นยำมากที่สุด

3.ติดตามข้อมูลข่าวสารในพื้นที่ EEC อย่างใกล้ชิด

ข่าวสาร อาทิ เช่นความคืบหน้าโครงการต่าง ๆ ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ควรสำรวจและติดตามอย่างต่อเนื่อง เพราะหากโครงการต่าง ๆ มีความล่าช้า ก็อาจส่งผลกระทบต่อการวางแผนการลงทุนของเราเช่นกัน ในขณะเดียวกัน ข้อมูลความเคลื่อนไหวในแวดวงอสังหาฯ ด้วยกันก็จะช่วยให้เราตัดสินใจและวางแผนการลงทุนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น เช่น สถานการณ์ด้านอุปทานที่อยู่อาศัยในพื้นที่จังหวัด EEC ที่จะทำให้เราทราบแน้วโน้มการเติบโตของอสังหาฯ ใน EEC ได้ว่า จะมีโครงการใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากเพียงใด

ตลอดจนสถานการณ์ด้านอุปสงค์ ที่จะทำให้ทราบตัวเลขการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและคอนโดในพื้นที่จังหวัด EEC ที่จะทำให้เราคาดการณ์แนวโน้มความต้องการของตลาดได้ว่า มีมากหรือน้อยแค่ไหน อันจะนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนได้อย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด

แม้โครงการพัฒนาต่าง ๆ จะทำให้เห็นโอกาสการลงทุนอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC อย่างชัดเจน หากแต่หัวใจสำคัญของการลงทุนอสังหาฯ ก็ยังไม่คงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นก็คือ ทำเล และ กลุ่มเป้าหมายจะต้องเหมาะสมสอดคล้องตรงโจทย์ตามความต้องการให้ได้มากที่สุด รวมถึงยังต้องอาศัยข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องรอบด้าน

อาทิ ข้อมูลคู่แข่ง ข้อมูลความต้องการของลูกค้า ข้อมูลความคืบหน้าของโครงการต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อประกอบการตัดสินใจให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุด ดังนั้น หากตั้งจะจะลงทุนอสังหาฯ ในพื้นที่ EEC ให้ประสบความสำเร็จแล้ว จึงควรใส่ใจกับเรื่องของการวางแผน และศึกษาข้อมูลให้เต็มที่

ที่มา :www.reic.or.th