‘แสนสิริ’แปลงร่าง ดักลูกค้าต่างชาติ

21 ก.ค. 2560 | 23:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

แสนสิริ จัดทัพใหม่ เดินหน้าสู่องค์กรระดับสากล คาดยอดขายต่างชาติปี 61 ทะยานสู่ 10,000 ล้านบาท พร้อมประกาศเกมรุกตลาดอสังหาฯครึ่งปีหลังเต็มสูบ

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงการปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ภายใต้กลยุทธ์ “Sansiri Transformation” เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวสู่ความเป็นองค์กรระดับสากล โดยรุกปรับองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ 4 ด้าน คือการเงิน, การบริหารโครงการ, กลยุทธ์การตลาดและเทคโนโลยี พร้อมกับดึงผู้บริหารที่มากประสบการณ์แต่ละด้าน มาช่วยขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำด้านเทคโนโลยี ที่ครอบคลุมทุกมิติของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการอยู่อาศัยอย่างเต็มรูปแบบ

ล่าสุดได้ลงทุนกว่า 3 ล้านบาท ในการพัฒนาหุ่นยนต์ “แสนดี” เพื่อมาให้บริการลูกค้า โดยนำร่องที่โครงการ “เดอะโมโนเม้นท์ สนามเป้า” เป็นโครงการแรกและในอนาคตมีแผนจะนำเข้าไปใช้ภายในโครงการอื่นๆด้วย

[caption id="attachment_134933" align="aligncenter" width="503"] อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) อภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)[/caption]

นอกจากนี้ ตั้งเป้าสู่การเป็นองค์กรระดับสากล หลังจากเริ่มด้วยจากการนำโครงการไปขายให้กับลูกค้าต่างชาติ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมียอดขายจากลูกค้าต่างชาติที่ 3,700 ล้านบาท คิดเป็น 46% ของเป้ายอดขายต่างชาติที่วางไว้ 8,000 ล้านบาท ดังนั้นปีนี้บริษัทมีแผนจะขยายสำนักงานในต่างประเทศเพิ่ม เพื่อขยายฐานลูกค้า โดยตั้งเป้าจะขยายสู่เซี่ยงไฮ้ เสินเจิ้น และกวางเจา

“หากอัตราการตอบรับจากชาวต่างชาติยังคงมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ ก็เชื่อว่าเป้ายอดขาย 8,000 ล้านบาทก็ไม่ใช่เรื่องยาก ทำให้คาดการณ์ได้ว่าในปี 2561 บริษัทอาจจะมีสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่ 10,000 ล้านบาท” นายอภิชาติ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ในปี 2560 บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการใหม่รวมจำนวน 19 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 44,460 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านเดี่ยว 9 โครงการ มูลค่า 19,400 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 24,200 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ มูลค่า 860 ล้านบาท โดยครึ่งปีแรกเปิดไปแล้ว 3 โครงการ ส่วนครึ่งปีหลังมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 16 โครงการ มูลค่า 39,260 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 7 โครงการ มูลค่า 22,350 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 8 โครงการ มูลค่า 16,150 ล้านบาท และทาวน์เฮาส์ 1 โครงการ มูลค่า 760 ล้านบาท

ด้านแผนพัฒนาโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบีทีเอส พบว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการพัฒนาไปแล้ว 8 โครงการ มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท และในปี 2560 นี้ บริษัทมีแผนพัฒนาโครงการร่วมทุน 4 โครงการ มูลค่า 11,900 ล้านบาท โดยในครึ่งปีแรกได้พัฒนาไปแล้ว 1 โครงการ มูลค่า 1,900 ล้านบาท ส่วนครึ่งปีหลังมีแผนพัฒนาโครงการเพิ่มอีกจำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบริษัทยังมองหาโอกาสในการหาพันธมิตรธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในอนาคต

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวมแล้วกว่า 15,000 ล้านบาท เติบโต 20% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้ามียอดขายรวม 36,000 ล้านบาท เติบโต 20% ส่วนตลาดต่างชาติมียอดขายแล้ว 3,700 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 8,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2561 จะมียอดขายที่ระดับ 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามในปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ที่ 37,500 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ไปถึงอีก 4 ปีข้างหน้า

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,280 วันที่ 20 - 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560