ต่างชาติชอบคอนโดหรู แสนสิริชี้โครงการในพื้นที่ไพรม์น่าลงทุน

06 มิ.ย. 2560 | 04:00 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

แสนสิริ เปิดผลวิเคราะห์การลงทุนอสังหาฯ ซูเปอร์ลักชัวรีในพื้นที่ไพรม์ ชี้ไทยมีศักยภาพโดดเด่น ดึงดูดกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก

นายอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับซุปเปอร์ลักชัวรี่ใน พื้นที่ไพร์ม (Prime Area) นับเป็นอีกทางเลือกในการลงทุนในระดับ Ultra-High Net worth Individual (UHNWI) หรือบุคคลธรรมดาที่มีสินทรัพย์สุทธิในระดับสูง ที่เดิมนักลงทุนกลุ่มนี้จะลงทุนในเมืองที่มีชื่อเสียง เพราะราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น บริเวณ The Peak ฮ่องกง ที่ราคาเพิ่มขึ้น 71% และในลอนดอนที่เพิ่มขึ้น 68% ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทย ได้กลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักลงทุนชาวต่างชาติสนใจ เห็นได้จากห้องเพนเฮาส์ที่มีราคาสูงสุดของโครงการ 98 WIRELESS มีราคาขายอยู่ที่ 666,666 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งเป็นราคาที่สูงขึ้นถึง 65% เทียบจากห้องเพนเฮาส์ในโครงการที่ราคาสูงสุดในประเทศไทยในปี 2554 โดยโครงการตั้งอยู่ในย่านใจกลางธุรกิจ (CBD)ของกรุงเทพมหานคร

[caption id="attachment_157538" align="aligncenter" width="503"] นายอุทัย อุทัยแสงสุข นายอุทัย อุทัยแสงสุข[/caption]

เมื่อพิจารณาถึงปัจจัยที่สำคัญต่อการเลือกซื้ออสังหาริมทรัพย์ สำหรับกลุ่มผู้ซื้อในตลาดต่างชาติ ประเทศไทย นับว่ามีความพร้อมอย่างรอบด้านเมื่อเทียบกับประเทศที่มีความโดดเด่นในด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ทั้งในแง่ทำเลที่เป็นศูนย์กลางของอาเซียน ความพร้อมในระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม สำหรับทั้งการอยู่อาศัยและการลงทุนภาคอุตสาหกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีโครงการเปิดขายในตลาดมากกว่าประเทศอื่น ที่สำคัญกฏหมายของไทยเอื้อต่อชาวต่างชาติในการซื้อขายและถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน นอกจากนี้เมื่อพิจารณาในภูมิภาคอาเซียน กรุงเทพฯ นับว่าเป็นเมืองที่มีทั้งความต้องการและสินค้าในตลาดอสังหาริมทรัพย์มากกว่าเมืองสำคัญอื่นๆ ทั้งหมด

เมื่อพิจารณาลึกลงมาที่อสังหาริมทรัพย์ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ในทำเลใจกลางเมือง ราคาต่อพื้นที่ของอสังหาริมทรัพย์ระดับนี้ จะต่ำกว่าในเมืองสำคัญอื่น ๆ ทั้งในเอเชียและทั่วโลก ยกตัวอย่าง 98 WIRELESS โครงการแฟล็กชิพคอนโดมิเนียมจากแสนสิริได้ชื่อว่าเป็นโครงการที่ดีที่สุดในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปรียบเทียบในราคา 70 ล้านบาท จะได้พื้นที่ขนาด 121 ตารางเมตร ซึ่งเปรียบเทียบกับเมืองอื่นๆที่มูลค่าจำนวนเดียวกันนี้ จะสามารถซื้อห้องที่มีขนาดพื้นที่เล็กกว่า เทียบจากราคาเฉลี่ยคอนโดฯในเมืองอื่นๆในย่านศูนย์กลางธุรกิจใจกลางเมืองหรือ CBD อาทิ ฮ่องกง (40 ตารางเมตร) นิวยอร์ค (52 ตารางเมตร)

[caption id="attachment_156380" align="aligncenter" width="411"] ต่างชาติชอบคอนโดหรู แสนสิริชี้โครงการในพื้นที่ไพรม์น่าลงทุน ต่างชาติชอบคอนโดหรู แสนสิริชี้โครงการในพื้นที่ไพรม์น่าลงทุน[/caption]

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก www.realist.co.th ชี้ว่าเมื่อพื้นที่ที่เป็นทำเลทอง และมีที่ดินซึ่งสามารถพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้เหลือน้อยลง ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์จะพุ่งขึ้นในอัตราสูง อาทิ ถนนวิทยุที่มีแนวโน้มการปรับราคาซื้อขายที่ดินสูงอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นในฮ่องกง และสิงคโปร์ เห็นได้จากอัตราส่วนต่างกำไร (Capital Gain) ตั้งแต่ปี 2554 – 2558 ของที่ดินโซนวิทยุที่เติบโตขึ้นถึง 36% เพิ่มขึ้นจาก 1,400,000 บาท เป็น 1,900,000 บาทต่อตารางวา

ทั้งนี้ ในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา ( 2557-2559) ราคาคอนโดมิเนียมในกรุงเทพมหานคร ระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ที่ราคามากกว่า 300,000 บาทต่อตารางเมตร มีราคาเพิ่มขึ้น 10% ซึ่งถือว่ามีราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับคอนโดมิเนียมในเซ้กเม้นท์อื่นๆที่บวกมากสุดแค่ 2% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทำเลทองย่านเพลินจิต ชิดลม ที่คอนโดมิเนียมเซ้กเม้นต์นี้มีอัตราดูดซับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี จาก 4.36% ในปี 2556 เป็น 24.0% ในปี 2559 เมื่อเทียบกับสุขุมวิทที่ 19.73% หรือสีลมสาทรที่ 4.30% สำหรับโครงการ 98 WIRELESS คาดว่าจะสามารถปิดการขายได้ประมาณปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า ซึ่งขณะนี้ขายไปแล้ว 60% ประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท หรือ 40-50 หน่วย เหลือขายกว่า 30 หน่วย หรือ 2,000 ล้าน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,267 วันที่ 4 - 7 มิถุนายน พ.ศ. 2560