เปิดประเทศ ฟื้นอสังหาฯภูเก็ต 'วิลล่าหรู' ขายดีโต 60%

22 ส.ค. 2565 | 01:13 น.

จับตา ตลาดคอนโดฯ - วิลล่าตากอากาศ ภูเก็ต ฟื้นแรง อานิสงส์เปิดประเทศ ดัน ดีมานด์คนไทย และ ต่างชาติ ซื้ออยู่เอง - แห่ลงทุน

แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี ประเทศไทย จำกัด ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียมภูเก็ตในช่วงครึ่งแรกปี 2565 ว่า มีเพียงจำนวน 215 ยูนิต ที่เข้าสู่ตลาดใหม่ หลังจาก ก่อสร้างแล้วเสร็จ สำหรับ โครงการ VIP Great Hill Condominium ซึ่งก่อสร้างล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากการแพร่ระบาดโควิด-19  จึงส่งผลให้ ในครึ่งปีแรกของปี 2565 มีคอนโดมิเนียมในตลาดภูเก็ตทั้งสิ้น 10,315 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4.3% ต่อปี เมื่อเทียบกับ 9,891 ยูนิต ในครึ่งปีแรกของปี 2564   

 

ทั้งนี้ ซีบีอาร์อี คาดการณ์ด้านซัพพลายใหม่ ว่า จะมีเพิ่มขึ้นอีกราว 3,700 ยูนิต ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปี 2567 โดยส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในตอนกลางของชายฝั่งตะวันตก ชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ และชายฝั่งด้านใต้

ดีมานด์คอนโดฯโตกว่า200%


สำหรับด้านดีมานด์ ความต้องการคอนโดมิเนียมตากอากาศในจังหวัดภูเก็ต พบว่า มียอดขาย 630 ยูนิตในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 เพิ่มขึ้น 209.8% ต่อปี จาก 204 ยูนิตที่ขายได้ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564 หรือคิดเป็นเติบโต 146.8% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564 ที่ขายได้ 255 ยูนิต

โดยผู้ซื้อคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ เป็นชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่ซื้อเพื่อการลงทุน โดยผู้ซื้อเหล่านี้ต้องการซื้อยูนิตขนาดเล็ก (สตูดิโอและหนึ่งห้องนอน) มากกว่าซื้อยูนิตที่ใหญ่กว่า   ทั้งนี้ ยอดขายบางส่วนมาจากการขายออนไลน์ และลูกค้าบางคนตัดสินใจซื้อโดยที่ไม่เคยเห็นห้องตัวอย่างมาก่อน

" ซีบีอาร์อีคาดว่าจะเห็นความต้องการห้องสตูดิโอมากขึ้นซึ่งเป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับการปล่อยเช่า ทำให้ผู้ซื้อมีความยืดหยุ่นในการใช้พักอาศัยเองและเพื่อการลงทุน" 

วิลล่าเปิดเยอะ-ขายดี


ขณะที่ ตลาดวิลล่าภูเก็ต ในช่วงครึ่งแรกปี 2565 พบยังคงมีความคึกคักต่อเนื่องมาจากช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว  โดยสภาวะตลาดที่ปรับตัวดีขึ้นนี้ เห็นได้จากจำนวนโครงการวิลล่าเปิดตัวใหม่ที่เพิ่มมากขึ้นและยอดขายที่ดี  ซึ่งบางโครงการสามารถปิดการขายได้หมดทุกหลัง โดย ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหญ่ ความต้องการวิลล่าในตลาดส่วนใหญ่มาจากผู้ซื้อในประเทศเพื่อพักอาศัยเอง   ซีบีอาร์อีเริ่มเห็นความต้องการซื้อวิลล่าจากผู้ซื้อชาวต่างชาติเพิ่มขึ้นเนื่องจากประเทศไทยผ่อนปรนข้อกำหนดในการเดินทางเข้าประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2565


" ช่วงครึ่งปีแรกของ มีการขายวิลล่าไปทั้งหมด 130 หลัง เพิ่มขึ้น 60.5% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2564  และ 113.1.% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2564  แผนกวิจัย ซีบีอาร์อีเชื่อว่าวิลล่าส่วนใหญ่ที่ขายให้กับผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินั้นเป็นการซื้อเพื่อพักอาศัยเอง "
 

สำหรับโครงการวิลล่าเปิดใหม่ 6 โครงการในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 รวมจำนวน 82 ยูนิต ได้แก่ 1) Rosewood Residences Kamala (2) Zenithy Luxe (3) Trichada Breeze (4) Grand View Residences Lagoon (5) The Menara Hill (เฟส) III) และ (6) Khanthasia Eden Hill



ทั้งนี้ แผนกวิจัย ซีบีอาร์อี คาดว่าตลาดวิลล่าในภูเก็ตส่วนใหญ่จะขับเคลื่อนโดยผู้ซื้อที่ต้องการพักอาศัยเอง  ด้านตลาดการลงทุนมักจะได้รับความนิยมจากผู้ซื้อชาวต่างชาติมากกว่า  ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่น่าจับตาดูว่าความต้องการวิลล่าในภูเก็ตจะเพิ่มขึ้นหรือไม่เมื่อจำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น