ยกชลบุรี “เมืองท่า” เทียบชั้นโอซาก้า โตเกียว

07 ส.ค. 2565 | 06:16 น.

บิ๊กอสังหาฯ ชลบุรี 'ออเนอร์ กรุ๊ป' ลุยลงทุนสร้างอาณาจักร Mixed-Use กลางเมืองพัทยา คอนโดมิเนียม ONCE PATTAYA รับแผนบูม EEC ที่ดิน ส.ป.ก. ห้วยใหญ่ ชูจุดเด่นชลบุรี “เมืองท่า” เทียบชั้นโอซาก้า โตเกียว

7 สิงหาคม 2565 - “พัทยา” จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเมืองที่มีจุดเด่นด้านการท่องเที่ยวและเป็นเมืองอุตสาหกรรม หนึ่งในสามจังหวัด ของแผนพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ผ่านการทุ่มเงินงบประมาณเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ทั้งทางอากาศ ทางราง ทางน้ำ และทางบก เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อและมีประสิทธิภาพ 

 

ส่งเป้าหมายให้พื้นที่ EEC เป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมไทยสู่ทวีปเอเชีย และทำให้พื้นที่เมืองพัทยายังคงเป็นจุดหมายของนักท่องเที่ยว นักลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศเข้ามาท่องเที่ยวและลงทุนอย่างต่อเนื่อง

อสังหาฯผ่านจุดต่ำสุด 

สำหรับในมุมมองของ นายคริส เชิดสุริยา ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหาร บริษัท ออเนอร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในพัทยามากว่า 20 ปี  ระบุว่า ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาที่เกิดการระบาดโควิด-19 และได้ล็อกดาวน์ประเทศยอมรับส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆค่อนข้างมากทั้งภาคการท่องเที่ยว รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นนี้ค่อยๆ คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากที่มีการเปิดประเทศมากขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา 

ยกชลบุรี “เมืองท่า” เทียบชั้นโอซาก้า โตเกียว

ซึ่งนอกจากนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวไทยแล้ว ยังมีชาวต่างชาติเข้ามามากขึ้น โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวอินเดีย ร้านค้า ร้านอาหารเปิดให้บริการได้ตามปกติ รวมถึงการจองห้องพักในโรงแรมต่างๆ ก็มีมากขึ้นด้วยเมื่อเทียบกับช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คาดว่าตลอดทั้งปี 2565 นี้จะมีนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวในไทยราว 6 ล้านคน คาดจะสร้างรายได้ 6 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปี 2563 และคาดการณ์ปลายปี 2565 ทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวและยอดรายได้ที่เกิดจากนักท่องเที่ยวน่าจะขยับขึ้นมาอยู่ที่ 90% ก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

 

"  มองว่าเราผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลายๆ ธุรกิจเริ่มกลับมา อสังหาฯ หลายโครงการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เทศกาลและกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว ถูกจัดขึ้นตลอดทุกสัปดาห์ รวมทั้งผู้ประกอบการทุกระดับตื่นตัวเพื่อรองรับลูกค้าชาวไทยและต่างชาติ”

ยกชลบุรีเป็น “เมืองท่า” เทียบชั้นโอซาก้า ของโตเกียว

นายคริส ยังให้ความเห็นอีกว่า ส่วนตัวยังมองทำเล พัทยา ชลบุรี จะยังคงมีการเติบโตด้านการลงทุนและตลาดอสังหาฯ  เพราะผู้ประกอบการยังเชื่อมั่นในศักยภาพของทำเลที่มีความพร้อมในหลายๆ ด้าน และการที่รัฐบาลให้ความสำคัญยกระดับให้ชลบุรีซึ่งเป็นหนึ่งในสามจังหวัดพื้นที่ EEC เป็นต้นแบบพัฒนาเชิงพื้นที่ยุทธศาสตร์ ประกอบกับได้มีนโยบายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ หลายโครงการมาอย่างต่อเนื่อง 

 

อาทิ โครงการรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง - สุวรรณภูมิ - อู่ตะเภา) ซึ่งปัจจุบันได้มีการส่งมอบพื้นที่ไปแล้ว 100% สำหรับใช้ก่อสร้างโครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบัง และโครงการสนามบินอู่ตะเภา ฯลฯ รวมถึงโครงการพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเมืองพัทยา เช่น โครงการรถไฟรางเบา (โมโนเรล) เพื่อบริการรับส่งผู้โดยสารที่เดินทางมาด้วยรถไฟความเร็วสูงให้เข้าสู่พื้นที่ของเมืองพัทยา และโครงการ NEO PATTAYA ยกระดับเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว EEC สร้างรายได้ชุมชนยั่งยืน ปัจจัยบวกเหล่านี้จะสนับสนุนให้พัทยา ชลบุรีไม่ใช่แค่เมืองท่องเที่ยว แต่จะกลายเป็น “เมืองท่า” สำคัญของกรุงเทพฯ เทียบได้กับโตเกียวที่มี “โอซาก้า” เป็นเมืองท่า

 
แผนพัฒนา ที่ดิน สปก.ห้วยใหญ่ บางละมุง แม็กเน็ตใหม่ EEC 

นอกจากนี้ ยังมีแม็กเน็ตใหม่ที่ดึงดูดกำลังซื้อและนักลงทุนเข้ามาซื้อที่อยู่อาศัยนั่นคือ มาตรการที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดิน ที่จะออกกฎกระทรวงมหาดไทยเพิ่มเติม เรื่องการให้สิทธิคนต่างด้าว (ต่างชาติ) ที่นำเงินมาลงทุนไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาทและคงการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี จะได้สิทธิถือครองที่ดินเพื่ออยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ 

 

รวมถึงโครงการลงทุนขนาดใหญ่ที่ล่าสุดมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เข้าไปใช้ประโยชน์ที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนกว่า 14,000 ไร่ ในท้องที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์ธุรกิจ EEC และเมืองใหม่น่าอยู่อัจฉริยะ ใช้เงินลงทุนประมาณ 1.34 ล้านล้านบาท เกิดการจ้างงานใหม่ไม่น้อยกว่า 200,000 ตำแหน่ง มีระยะเวลาการพัฒนา 10 ปี (ปี 2566-2575)


“มาตรการและโครงการลงทุนพัฒนาต่างๆ เกิดจากนโยบายของภาครัฐบาล จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัว”

 

เดินหน้าลุยโครงการ Mixed-Use กลางเมืองพัทยา 
 
สำหรับโอกาสและแผนพัฒนาอสังหาฯของ ออเนอร์ กรุ๊ป นั้น นอกจากโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและดำเนินการด้านการตลาดและขายอยู่ในปัจจุบัน ทางบริษัท ยังมีแผนที่จะขยายการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวสูงและแนวราบประเภท พูลวิลล่า เพิ่มเพื่อรองรับกับความต้องการของตลาดผู้บริโภคให้ครบทุกเซ็กเมนต์ เพราะมั่นใจว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังมีดีมานด์ 

ทั้งซื้อเพื่อเป็นบ้านหลังแรก เป็นบ้านหลังที่สอง  โดยเฉพาะในยุคเงินเฟ้อที่แนวโน้มพุ่งสูงขึ้น การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ชนะเงินเฟ้อเป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งของกลุ่มนักลงทุน ได้ผลตอบแทนในระดับ 5-6% ขึ้นไป 

ยกชลบุรี “เมืองท่า” เทียบชั้นโอซาก้า โตเกียว

ขณะเดียวกัน บริษัทไม่ได้หยุดงานก่อสร้างบนที่ดินกว่า 4.5 ไร่ ติดถนนพัทยาสาย 3 ประกอบด้วยโรงแรม ร้านค้า และคอนโดมิเนียม รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 3,500 ล้านบาท ซึ่งโปรดักส์โดดเด่น คือ คอนโดมิเนียมพัฒนาภายใต้ชื่อ วันส์ พัทยา ONCE PATTAYA เป็นอาคารสูง 32 ชั้น จำนวนห้องพักอาศัยรวม 427 ยูนิต ขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 28.4-201 ตารางเมตร (ตร.ม.) ตามเอกสารขาย/ราคาเฉลี่ย 140,000 บาท ต่อ ตร.ม. รวมมูลค่าโครงการประมาณ 2,000 ล้านบาท ปัจจุบันคอนโดมิเนียม ONCE PATTAYA มียอดขายแล้วประมาณ 70% ซึ่งก็มีทั้งลูกค้าที่เป็นคนไทยและชาวต่างชาติ ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเป็นบ้านหลังที่ 2 และซื้อเพื่อการลงทุน