จีน - รัสเซีย ครองแชมป์ ถือครองคอนโดฯ ไทย ปี 2564

28 มี.ค. 2565 | 09:22 น.

คอนโดฯไทยยังฮอต! REIC สรุปภาพรวม ต่างชาติ โอนกรรมสิทธิ์ ปี 2564 ผ่านจุดต่ำสุด ปี 2564 ขณะชาวจีน ขึ้นแท่นถือครองมากสุด ทั้งประเทศมูลค่าสูง 2.29 หมื่นล้านบาท รองลงมา คือ รัสเซีย

28 มีนาคม 2565 - ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ หรือ REIC เผยว่า สถานการณ์ การโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียม หรือ ห้องชุดของคนต่างชาติ ได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดในไตรมาส 3 ปี 2564 มาแล้ว โดยภาพรวมทั้งประเทศ ปี 2564 พบว่า มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนหน่วย มูลค่า และพื้นที่การโอนกรรมสิทธิ์ จากช่วงปี 2563 โดยมีมูลค่าการโอน รวม 39,610 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีพื้นที่ห้องชุดที่โอนทั้งหมด รวม 355,315 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.1 

จีน - รัสเซีย ครองแชมป์ ถือครองคอนโดฯ ไทย ปี 2564
 

ต่างชาติซื้อคอนโดฯไม่เกิน 3 ล้านมากสุด

ภาพรวมทั้งปี 2564 พบว่า มีจำนวนหน่วยการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวต่างชาติมากที่สุด

  • อันดับ 1 ระดับราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท จำนวน 4,046 หน่วย 
  • อันดับ 2 ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท จำนวน 1,858 ล้านบาท 
  • อันดับ 3 ระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท จำนวน 1,219 ล้านบาท 
  • อันดับ 4 ระดับราคา มากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 565 ล้านบาท
  • อันดับ 5 ระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท จำนวน 510 ล้านบาท

 

ต่างชาติโอนฯคอนโด มากกว่า 10 ล้านสูงสุด 

ในด้านมูลค่า มีการโอนมากที่สุดในระดับราคามากกว่า 10.00 ล้านบาทขึ้นไป มีมูลค่า 13,078 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.0 รองลงมาคือระดับราคา 5.01 – 7.50 ล้านบาท มีมูลค่า 7,472 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 18.9) ระดับราคาไม่เกิน 3.00 ล้านบาท มีมูลค่า 7,416 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 18.7) ระดับราคา 3.01 – 5.00 ล้านบาท มีมูลค่า 7,324 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 18.5) และระดับราคา 7.51 – 10.00 ล้านบาท มีมูลค่าน้อยที่สุด จำนวน 4,320 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 10.9)

จีน - รัสเซีย ครองแชมป์ ถือครองคอนโดฯ ไทย ปี 2564

ชาวจีนขึ้นแท่นเจ้าของคอนโดฯไทยสูงสุด

สำหรับสัญชาติคนต่างชาติที่รับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด 

  • อันดับ 1 ชาวจีน เป็นสัญชาติที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดมากที่สุดทั่วประเทศ โดยปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้ชาวจีนไปแล้วทั้งหมด 4,867 หน่วย คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 59.4 ของหน่วยทั้งหมด 
  • อันดับ 2 รัสเซีย จำนวน 306 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 3.7)
  • อันดับ 3 สหราชอาณาจักร จำนวน 280 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 3.4) 
  • อันดับ 4 สหรัฐอเมริกา จำนวน 279 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 3.4) 
  • อันดับ 5 มีจำนวนหน่วยเท่ากัน คือ เยอรมัน และ ฝรั่งเศส จำนวน 234 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 2.9) ตามลำดับ


" หากพิจารณาย้อนหลังไปจนถึงปี 2561 จะพบว่า ชาวจีน ยังคงเป็นสัญชาติที่นิยมซื้อห้องชุดในประเทศไทยเป็นส่วนใหญ่ โดยมีสัดส่วนในแต่ละปีสูงกว่าร้อยละ 50 ของหน่วยทั้งหมด และลำดับรองลงมาส่วนใหญ่เป็นชาวยุโรป โดยมีสัดส่วนไม่ถึงร้อยละ 7 ทั้งนี้ สัญชาติที่นิยมเข้ามาซื้อห้องชุดในประเทศไทยตั้งแต่ ปี 2561 ถึง ปี 2564 ที่มีจำนวนหน่วยสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และ สหรัฐอเมริกา ตามลำดับ " 

จีน - รัสเซีย ครองแชมป์ ถือครองคอนโดฯ ไทย ปี 2564


" ในปี 2564 มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทั่วประเทศให้ชาวจีน เป็นมูลค่าสูงสุด จำนวน 22,874 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนที่สูงถึงร้อยละ 57.7 ของมูลค่าทั้งหมด ส่วน 4 สัญชาติที่มีมูลค่าการโอนรองลงมาคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 1,299 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 3.3) ถัดมาคือ สหราชอาณาจักร จำนวน 1,252 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 3.2) วานูอาตู จำนวน 1,113 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 2.8) และเยอรมัน จำนวน 996 ล้านบาท (สัดส่วนร้อยละ 2.5) ตามลำดับ เป็นที่น่าสังเกตว่า ชาววานูอาตู มีมูลค่ารับโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดสะสมในปี 2564 สูงสุดเป็นลำดับที่ 4 แต่มีจำนวนหน่วยสะสมเพียง 59 หน่วย ซึ่งคิดเป็นมูลค่าห้องชุดเฉลี่ยต่อหน่วยสูงถึง 18.9 ล้านบาท "

จีน - รัสเซีย ครองแชมป์ ถือครองคอนโดฯ ไทย ปี 2564

5 อันดับทำเล คอนโดฯไทย ต่างชาตินิยมสูงสุด 

ทั้งนี้ 5 จังหวัดที่มีการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดคนต่างชาติสูงสุดในปี 2564 ได้แก่ 

  1. กรุงเทพฯ 
  2. ชลบุรี 
  3. ภูเก็ต 
  4. สมุทรปราการ 
  5. เชียงใหม่ 

 

ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ใน 2 จังหวัดแรก คือ กรุงเทพฯ มีจำนวน 4,213 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 51.4) และชลบุรี จำนวน 2,398 หน่วย (สัดส่วนร้อยละ 29.3) ตามลำดับ โดยทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึงร้อยละ 80.7 ของทั่วประเทศ 


"เมื่อพิจารณาย้อนหลังไปถึงปี 2561 พบว่า กรุงเทพฯ และชลบุรี ยังคงเป็นจังหวัดที่มีจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติในสัดส่วนที่มากที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนอันดับรองลงมาเป็นจังหวัดที่อยู่ในปริมณฑลบางจังหวัดและจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่ สมุทรปราการ ภูเก็ต เชียงใหม่ และประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น"