ดึงวสท.หาสาเหตุนั่งร้านไซต์ก่อสร้างโรงแรมหรู "วัน แบงค็อก" ถล่ม

16 ก.พ. 2565 | 09:26 น.

สน.ลุมพินีประสานวสท.-พฐ. ลุยตรวจสอบนั่งร้านไซต์ก่อสร้างโรงแรมหรู "วัน แบงค็อก" หัวมุมถนนพระราม4ตัดถนนวิทยุเขตปทุมวัน กทม. ถล่ม

 

หัวมุมถนนพระราม4ตัดถนนวิทยุเขตปทุมวัน เกิดโกลาหลเมื่อช่วงเช้าตรูเมื่อนั่งร้านโครงการก่อสร้างโรงแรมหรูภายในโครงการวันแบงค็อกเนื้อที่104ไร่ อาณาจักรเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ถล่มทับคนงานเสียชีวิตจำนวน2ราย ล่าสุดสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี ได้ประสานกับวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย(วสท.)และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจร่วมกันตรวจสอบหาสาเหตุของการถล่มครั้งนี้

 

จากการสอบถาม นายสามารถ เหล่าฤทธิ์ วิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง และอยู่ในที่เกิดเหตุ ทราบว่า ขณะควบคุมคนงานก่อสร้างชั้นใต้ดินภายในโครงการดังกล่าว โครงเหล็กนั่งร้านได้พังลงมาเอง แล้วทับคนงานที่กำลังทำงานอยู่ด้านล่าง 2 ราย ได้ค้นหาและกู้ซากอาคารที่ถล่ม ก่อนพบร่างนางประไพ จึงรีบนำส่งรพ.กล้วยน้ำไท และพบศพนางบุญโฮมเสียชีวิตที่เกิดเหตุ

ทั้งนี้เมื่อเวลา 04.00 น. วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 พ.ต.ต.ประกัน กาวี สว.(สอบสวน) สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุนั่งร้านถล่ม มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในโครงการก่อสร้าง อาคารวันแบงค็อก  ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร(กทม.) จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

 

สำหรับที่เกิดเหตุเป็นโครงการก่อสร้างโรงแรมขนาดใหญ่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าพื้นที่เด็ดขาด บริเวณอาคารก่อสร้างชั้น B1 หรือชั้นใต้ดิน 1 พบซากก้อนอิฐปูน แผ่นไม้ และเหล็ก ที่ใช้ทำนั่งร้านพังถล่มลงมา เจ้าหน้าที่ รปภ.กับคนงานช่วยกันค้นหาผู้ประสบเหตุ

 

พบนางประไพ สุปมา อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ต.ทรายขาว อ.วังสะพุง จ.เลย  เสียชีวิตขณะ รปภ.นำตัวส่ง รพ.กล้วยน้ำไท ต่อมาพบศพ นางบุญโฮม วังมา อายุ 42 ปี ชาวบ้าน หมู่ 2 ต.ห้วยม่วง อ.ภูผาม่าน จ.ขอนแก่น  มีรอยถูกกดทับ

 

ด้านพ.ต.อ.นิมิตร นูโพนทอง ผกก.สน.ลุมพินี กล่าวว่า อยู่ระหว่างเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมกับประสานวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) สำนักงานเขตปทุมวันฝ่ายโยธา และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ หากพบว่าเหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้เกี่ยวข้องทำให้มีคนเสียชีวิต เข้าข่ายความผิดฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย.