BEDO เปิดงาน“ตลาดปันรักษ์” ครั้งที่ 2 ที่ชุมชนเกาะกลาง กระบี่

12 มิ.ย. 2566 | 12:13 น.
อัปเดตล่าสุด :12 มิ.ย. 2566 | 12:19 น.

BEDO ส่งเสริมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนด้าน“การท่องเที่ยวชีวภาพ” พร้อมเปิดงาน“ตลาดปันรักษ์” ครั้งที่ 2 ที่ชุมชนเกาะกลาง คลองประสงค์ จังหวัดกระบี่

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) หรือ BEDO ชูแนวคิดการใช้ทรัพยากรในพื้นที่ พัฒนาเศรษฐกิจจากความหลากหลายทางชีวภาพ สนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชนบ้านเกาะกลาง คลองประสงค์ จังหวัดกระบี่ ด้วยการเข้าไปยกระดับชุมชนด้าน “การท่องเที่ยวชีวภาพ” ส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนในเชิงธุรกิจจากผู้คนที่เข้าไปสัมผัสความเป็นอยู่ของผู้คนที่ว่าด้วยการท่องเที่ยวแล้ว BEDO ยังส่งเสริมการจัดกิจกรรม“ตลาดปันรักษ์”ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เพื่อกระจายรายได้อย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิดการอนุรักษ์ทรัพยากรความหลากหลายทางชีวภาพควบคู่ไปกับการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน

นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ ลงพื้นที่ชุมชนบ้านเกาะกลาง คลองประสงค์ จังหวัดกระบี่ เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการท่องเที่ยวชีวภาพและตลาดปันรักษ์ เพื่อส่งเสริมการสร้างรายได้จากคุณค่าทรัพยากรในชุมชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้นำชุมชน และมีองค์การบริหารส่วนท้องถิ่นหลายที่ให้ความสนใจเข้ามาทํากิจกรรมศึกษาดูงานด้านการจัดการทรัพยากรชีวภาพที่หลากหลายในชุมชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยนำมาแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความแตกต่าง ส่งเสริมการพัฒนาผลผลิตให้มีคุณภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าก่อนออกสู่ตลาดกลุ่มผู้บริโภค โดยทุกกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ BEDO ให้เข้าสำรวจและส่งเสริมด้านการพัฒนาสินค้าจากความหลากหลายของทรัพยากรที่มีอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เพื่อสร้างเศรษฐกิจและสร้างความยั่งยืนให้ผู้คนในชุมชน

 

นางสุวรรณา เตียรถ์สุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ เข้าร่วมงาน “ตลาดปันรักษ์ บ้านคลองกำ สักหอย ปล่อยปู ดูนกแล เขเรือ แลหวันตก มาตะคลองประสงค์ ครั้งที่ 2” ภายในงานคนในชุมชนนำสินค้า วัตถุดิบในการทำอาหาร และอาหารพื้นถิ่น เข้ามาจำหน่ายในตลาดปันรักษ์ ซึ่งจัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสวิถีชุมชนบ้านเกาะกลาง คลองประสงค์ จังหวัดกระบี่ และยังมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนอื่นๆ ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อม มัดย้อมด้วยสีธรรมชาติที่มีอยู่ในชุมชน เช่น เปลือกไม้แสม เปลือกไม้โกงกาง ใบหูกวาง ใบสาบเสือ เป็นต้น กลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าปาเต๊ะบ้านคลองประสงค์ 

และศูนย์เลี้ยงชันโรงบ้านคลองประสงค์ โดยกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเหล่านี้ยังเปิดเป็นศูนย์การเรียนรู้ให้แก่ผู้คนที่สนใจสามารถเข้ามาเรียนรู้ได้

นอกจากนี้ยังมี “กาแฟขี้ชะมด” ที่สร้างเศรษฐกิจชีวภาพให้คนในพื้นที่วิสาหกิจชุมชนศูนย์เรียนรู้ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บ้านดินแดง ต.ดินแดง อ.ลําทับ จ.กระบี่ โดยมี คุณพิศิษฏ์ เป็ดทอง ประธานวิสาหกิจฯ เป็น ผู้บุกเบิกการผลิตกาแฟขี้ชะมดจนเป็นที่รู้จัก ในชื่อแบรนด์ Chamone ประธานวิสาหกิจฯ ยังแบ่งปันการเพาะเลี้ยงกาแฟว่าใช้วิธีเพาะเมล็ด นับจากวันที่ปลูกสามารถเก็บ เกี่ยวผลผลิตได้ตั้งแต่ปีที่ 3 แต่จะเต็มที่ในปีที่ 4 เป็นต้นไป ใน รอบปีกาแฟจะออกดอก เริ่มติดลูกเมล็ดกาแฟในช่วงมกราคม-กุมภาพันธ์ และสามารถเก็บเกี่ยวได้ในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม คอกาแฟต้องลองสัมผัสกับ “กาแฟขี้ชะมด” เป็นกาแฟขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย มีความหอมละมุน นุ่มลิ้น คงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของกาแฟขี้ชะมดที่คนรักกาแฟไม่ควรพลาด

สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ยังได้ดําเนินงานด้านธนาคารความหลากหลายทางชีวภาพระดับชุมชน Community BioBank เพื่อเก็บรวบรวมและจดบันทึกการเติบโตของต้นกาแฟโรบัสต้าซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยม ซึ่งคิดเป็น 20% รองลงมาจากสายพันธุ์อราบิก้า พื้นที่เหมาะสมกับการปลูกกาแฟสายพันธุ์นี้ต้องเป็นพื้นที่ที่มีอากาศชุ่มชื้น เช่น ชุมพร ระนอง กระบี่ สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช สําหรับจังหวัดกระบี่มีพื้นที่ปลูกอยู่ 3 อําเภอ คือ ลําทับ คลองท่อม และปลายพระยา เฉพาะในชุมชนลําทับมีจํานวน 100 ไร่ ไร่ละ 200 ต้น การปลูกกาแฟส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นสวนผสม มีต้นกาแฟเป็นหลักและปลูกผลไม้แซม จําพวกกล้วย ลองกอง มังคุด ทุเรียน ส่วนหนึ่งเพื่อเก็บไว้กินในครัวเรือน และสามารถนำผลผลิตส่วนเกินนั้นมาขายสร้างรายได้ให้กับวิสาหกิจชุมชน เนื่องจากราคาของกาแฟขี้ชะมดสูงถึง 20,000 บาท ต่อกิโลกรัม ราคาขายต่อช็อตอยู่ที่ 300 บาท ทำให้เกิดเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ดีให้แก่คนในชุมชน ทั้งนี้ BEDO ให้การส่งเสริม และสร้างความเข้มแข็งภายในชุมชนที่มีความสามารถพึ่งพาตนเองได้ ควบคู่กับการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพอย่างยั่งยืน