แคนดิเดตนายกฯ ทักทายกันคึกคัก “ยศชนัน” สวัสดี “อนุทิน” รอลุ้นจับเบอร์พรรค 

วันนี้ (28 ธ.ค.69) ตั้งแต่ช่วงเวลา 08.15 น. บรรยากาศภายในห้องประชุมวายุภักษ์ 2–4 ชั้น 4 โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร ซึ่งถูกกำหนดให้เป็นสถานที่รับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ และแจ้งรายชื่อบุคคลที่พรรคการเมืองเสนอเป็นนายกรัฐมนตรี เต็มไปด้วยความคึกคัก จากการทยอยเดินทางมาของหัวหน้าพรรคการเมืองและแคนดิเดตนายกฯ หลายพรรค โดยกกต.อนุญาตเข้าพื้นที่หัวหน้าพรรคและแกนนำพรรคไม่เกิน 5 คนต่อพรรค

เวลาใกล้เคียงกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะ เช่น นางศุภมาศ อิศรภักดี นายไชยชนก ชิดชอบ นายวราวุธ ศิลปอาชา และนายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เดินทางถึงพื้นที่รับสมัคร และได้ทักทายกับคณะกรรมการการเลือกตั้งนำโดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ก่อนเดินไปทักทายแกนนำพรรคการเมืองอื่นอย่างเป็นกันเอง

ต่อมา นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เดินทางมาพร้อม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายชูศักดิ์ ศิรินิล และนายประเสริฐ ทรัพย์รวงทอง ซึ่งได้เข้ามาสวัสดีนายอนุทินทันทีที่พบกัน

ขณะที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวงศ์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคประชาชน เดินทางเข้ามาภายหลัง มีการทักทายเฉพาะกลุ่มหัวหน้าพรรคที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ก่อนนายยศชนันและนายจุลพันธ์เดินเข้ามาพูดคุยเพิ่มเติม

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าพรรคกล้าธรรม นำทีมเข้าพื้นที่และทักทายพรรคต่าง ๆ ตามธรรมเนียม ส่วน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเข้าห้องประชุมได้กล่าวทักทายเจ้าหน้าที่และนักการเมืองบางส่วน ก่อนเลือกนั่งแยกต่างหากในอีกมุมของห้อง

เวลา 08.30 น. กกต.เริ่มชี้แจงขั้นตอนการรับสมัคร ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน ได้แก่

1.ตรวจเช็คเอกสาร

2.จับสลากหมายเลขพรรคสำหรับหาเสียงและลงคะแนน

3.ชำระค่าธรรมเนียมการสมัคร

4.ออกใบรับสมัคร

5.ตรวจรับเอกสารนโยบายหาเสียงของพรรค

โดยในวันนี้มีพรรคการเมืองลงทะเบียนก่อนเวลา 08.30 น. และเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเอกสาร รวม 52 พรรค ซึ่ง กกต.ระบุว่าอาจต้องใช้เวลาเพื่อให้เอกสารครบถ้วนทุกพรรค เพื่อความเรียบร้อยของขั้นตอนรับสมัคร

ทั้งนี้ เมื่อการตรวจสอบเสร็จสิ้น จะเข้าสู่กระบวนการจับสลาก 2 รอบ ได้แก่
 รอบแรก ประธาน กกต.จับลำดับพรรคที่จะยื่นใบสมัคร
 รอบสอง หัวหน้าพรรคจับหมายเลขประจำพรรค เพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง

สำหรับค่าธรรมเนียมการสมัครอยู่ที่ คนละ 10,000 บาท ชำระตามจำนวนผู้สมัครบัญชีรายชื่อที่ยื่น และสามารถชำระได้ทั้งเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมือง