KEY
POINTS
นายนฤชา โฆษาศิวิไลซ์ อธิบดีกรมการปกครอง เปิดเผยว่า มีหนังสือด่วนที่สุด เรื่อง มาตรการป้องปรามและเฝ้าระวังการนำบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้ในทางทุจริตการเลือกตั้ง ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และปลัดกรุงเทพมหานคร เพื่อเน้นย้ำการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเลือกตั้งอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้สืบเนื่องจากมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2568 และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดให้วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป
กรมการปกครองจึงให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการคุ้มครองความสุจริต เที่ยงธรรม และโปร่งใสของกระบวนการเลือกตั้ง
โดยเฉพาะการป้องกันพฤติการณ์นำบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้ในทางมิชอบ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและบ่อนทำลายหลักประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง
สำหรับบัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารราชการสำคัญ ใช้เป็นหลักฐานยืนยันตัวบุคคลในการใช้สิทธิและทำธุรกรรมตามกฎหมาย การนำไปเก็บ รวบรวม ยึดถือ หรือใช้แทนผู้อื่นไม่ว่ากรณีใด
ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย เพื่อเป็นการป้องปรามการทุจริตและสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชน จึงสั่งการให้จังหวัดและกรุงเทพมหานคร แจ้งให้อำเภอ สำนักงานเขต เทศบาล และเมืองพัทยา ดำเนินการดังนี้
1. กำชับเจ้าหน้าที่ในสังกัด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น ห้ามเรียกเก็บ รวบรวม ยึดถือ ครอบครอง
หรือรับฝากบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่น รวมถึงห้ามนำไปใช้สิทธิเลือกตั้งแทน หรือยินยอมให้ผู้อื่นนำบัตรของตนไปใช้ พร้อมทั้งให้ตรวจตรา เฝ้าระวังพฤติการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดในพื้นที่รับผิดชอบ
2. หากพบพฤติการณ์ที่อาจเข้าข่ายทุจริตการเลือกตั้ง ให้ รายงานผู้บังคับบัญชาทันที และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
3. ให้ประชาสัมพันธ์ผ่านเสียงตามสายและสื่อทุกช่องทาง เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงบทลงโทษตาม พระราชบัญญัติบัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561
บทกำหนดโทษที่เกี่ยวข้อง พ.ร.บ.บัตรประจำตัวประชาชน พ.ศ. 2526
อย่างไรก็ตามจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ฝ่าฝืน เพื่อรักษาความศักดิ์สิทธิ์ของสิทธิเลือกตั้งและความเชื่อมั่นของประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตย สร้างความเชื่อมั่นต่อกระบวนการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริต ยุติธรรมและโปร่งใส