KEY
POINTS
การเมืองไทยช่วงโค้งก่อนศึกเลือกตั้ง ปี 2569 คึกคักขึ้นเรื่อยๆ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และแกนนำพรรคภูมิใจไทย ขยับเปิดแพ็กนโยบายใหญ่ของพรรคอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2568 พร้อมประกาศความตั้งใจพาพรรคเดินหน้าสู่การบริหารประเทศต่อรอบใหม่ โดยย้ำว่า นโยบายครั้งนี้ “ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนเวทีดีเบต” แต่คือการเชื่อมโยงถึงวิถีชีวิตของประชาชนในทุกภาคส่วน
หัวใจสำคัญชู นโยบาย “รั้วของชาติ” ที่ไม่ได้จำกัดเพียงมิติทหารหรือชายแดน แต่เน้นการสกัดภัยรอบด้าน ตั้งแต่แรงงานผิดกฎหมาย สินค้าเถื่อน ยาเสพติด เครือข่ายสแกมเมอร์ การพนัน ไปจนถึงทุนสีเทา
พรรคประกาศยืนยันจุดยืน “ไม่เอาเศรษฐกิจสีเทา” เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของประเทศบนเวทีโลก
อีกหนึ่งข้อเสนอที่ถูกจับตาคือ โครงการ “ทหารอาสา 100,000 อัตรา” เปิดรับประชาชนสมัครใจเข้ารับราชการ 4 ปี พร้อมรายได้มั่นคง การฝึกอาชีพ และเส้นทางต่อหลังปลดประจำการ โดยนิยามว่าเป็นการสร้าง “กองทัพของประชาชน” ควบคู่การจ้างงานอย่างมีศักดิ์ศรี
ด้านเศรษฐกิจ พรรคภูมิใจไทยวางกรอบใหญ่ “เศรษฐกิจ 10 Plus” เน้นการเติบโตที่กระจายถึงผู้ประกอบการตัวเล็ก เกษตรกร และแรงงานฐานราก พร้อมเตรียมฟื้น “คนละครึ่งพลัส” ในรูปแบบใหม่ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพและกระตุ้นกำลังซื้อภายในประเทศ
ในมิติระยะยาว พรรคเสนอทิศทาง Made in Thailand + Net Zero ผลักดันสินค้าไทยเข้าตลาดโลก ด้วยมาตรฐานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สร้างแบรนด์อุตสาหกรรมไทยในแนวเศรษฐกิจสีเขียว และเพิ่มมูลค่าให้ภาคการผลิตยุคใหม่
อีกด้าน พรรคเตรียมวางระบบรองรับความเสี่ยงใหม่ของโลก ด้วยแนวคิดจัดตั้ง กองทุนภัยพิบัติแห่งชาติ เพื่อบริหารจัดการภัยธรรมชาติ อาชญากรรมไซเบอร์ ไปจนถึงอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นระบบ “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า นโยบายทั้งหมดตั้งแต่เด็ก เยาวชน การศึกษา สุขภาพ เศรษฐกิจครัวเรือน เกษตร ไปจนถึงโอกาสการลงทุนระดับประเทศ ต้องเดินคู่กับทีมบริหารที่มีประสบการณ์ พร้อมเริ่มงานทันที รับผิดชอบต่อประชาชนทุกวัน เป้าหมายคือ “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศไทย”