วันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า จะลงพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา อีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และเร่งมาตรการฟื้นฟู โดยจะนำคณะผู้บริหารระดับสูงจากหลายหน่วยงาน อาทิ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ผู้แทนสำนักงานงบประมาณ คปภ. ผู้บริหารสมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และผู้บริหารธนาคารออมสิน ร่วมลงพื้นที่
นายอนุทิน ระบุว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ต้องการเห็นสภาพปัญหาจริง เพื่อให้การช่วยเหลือด้านสินเชื่อและการเยียวยาเดินหน้าได้อย่างรวดเร็วตรงจุด โดยรัฐบาลได้อนุมัติงบเยียวยาครัวเรือนละ 9,000 บาท ผ่านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ซึ่งกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งรวบรวมรายชื่อผู้ได้รับผลกระทบ คาดภายในสัปดาห์หน้าเงินจะถึงมือประชาชน
นอกจากนี้ ยังมีมาตรการฟื้นฟูซ่อมแซมที่อยู่อาศัยตามความเสียหายจริง ครัวเรือนละไม่เกิน 45,000 บาท พร้อมจัดทีมสำรวจพื้นที่เร่งด่วน รวมถึงสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ระยะเวลา 6 เดือน รายละไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อการฟื้นตัวทางอาชีพ และสินเชื่อซ่อมแซมทรัพย์สินอีกวงเงินไม่เกิน 100,000 บาท ผ่อนสูงสุด 1 ปี โดยใช้ธนาคารของรัฐเป็นกลไกหลัก พร้อมประสานขอความร่วมมือธนาคารพาณิชย์เพิ่มเติมเรื่องพักหนี้และพักดอกเบี้ย
ด้านกระทรวงพาณิชย์ เตรียมจัดจำหน่ายสินค้าราคาทุนหรือต่ำกว่าทุนในพื้นที่ประสบภัย เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้ประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ว่า ตนได้พบประชาชนจำนวนมากและกล่าวคำขอโทษต่อทุกคนที่รัฐบาลไม่สามารถปกป้องให้มีความปลอดภัยได้ พร้อมยอมรับตรงไปตรงมาว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น “เป็นความผิดของนายกฯ ทั้งหมด”
“รัฐบาลมีความบกพร่องอย่างไร ผมยอมรับทั้งหมด เมื่อมีผู้เสียชีวิต มีผู้บาดเจ็บ มีคนต้องอพยพ ไม่สามารถกลับเข้าบ้านได้ นั่นคือนายกฯ ต้องรับผิดชอบ” นายอนุทิน กล่าว
สำหรับการป้องกันในอนาคต นายอนุทิน ระบุว่า ต้องถอดบทเรียนเชิงระบบ ทั้งการยกระดับมาตรการเตือนภัย ซึ่งอาจต้องพิจารณาแก้กฎหมายเพื่อให้การอพยพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงซ้อมแผนอพยพในจุดเสี่ยง พร้อมศึกษาปัญหาเชิงภูมิประเทศของเมืองหาดใหญ่ซึ่งเปรียบเสมือน “แอ่งกระทะ” ที่รวมน้ำจากพื้นที่โดยรอบ ต้องเร่งปรับปรุงการระบายน้ำ ปรับโครงสร้างถนนไม่ให้เป็นอุปสรรค และพิจารณาการสร้างทางเลี่ยงเมืองควบคู่แนวคันกั้นน้ำ
ส่วนการดูแลผู้ที่ยังไม่สามารถกลับเข้าบ้าน นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ใช้วิธีเดียวกับช่วงโควิด-19 ให้ผู้ประสบภัยเข้าพักในโรงแรมเป็นการชั่วคราวอย่างน้อย 3-5 วัน เพื่อรอการทำความสะอาดบ้าน โดยจะระดมเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทำเฮาส์คลีนนิ่งควบคู่ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือทั้งประชาชนและภาคธุรกิจโรงแรมไปพร้อมกัน
ด้านความปลอดภัยในพื้นที่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันไม่พบสถานการณ์รุนแรงตามที่ปรากฏในโซเชียล พร้อมสั่งการตำรวจภูธรภาค 9 และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองกว่า 4,000 นาย ลงพื้นที่ดูแลความสงบและป้องกันเหตุปล้นสะดมอย่างเต็มที่