'สุชาติ ชมกลิ่น' ปัดเอี่ยวบ่อดิน-ขยะอิเล็กทรอนิกส์ หากผิดจริงพร้อมถูกดำเนินคดี

30 ก.ย. 2568 | 09:04 น.
อัปเดตล่าสุด :30 ก.ย. 2568 | 09:16 น.

รมว.ทรัพยากรฯ ลุกชี้แจงกลางสภา หลังถูกพาดพิงพัวพันขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์และบ่อดินเถื่อนในชลบุรี ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง ท้าสาบานต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากทำผิดจริงให้ดำเนินคดีได้ทุกเรื่อง

KEY

POINTS

  • นายสุชาติ ชมกลิ่น ปฏิเสธข้อกล่าวหาพัวพันบ่อดินเถื่อนในจังหวัดชลบุรีและขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์
  • ยืนยันไม่ได้เป็นเจ้าของบ่อดินหรือรถบรรทุกสิบล้อตามที่ถูกกล่าวหา และหากมีการกระทำผิดกฎหมายต้องดำเนินคดีกับผู้ประกอบการ
  • ประกาศความบริสุทธิ์ของตนเอง และท้าให้ดำเนินคดีได้ทุกเรื่องหากพบว่ากระทำผิดกฎหมายจริง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลุกขึ้นชี้แจงต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ภายหลัง นายกฤช ศิลปชัย ส.ส.ระยอง พรรคประชาชน กล่าวหาว่า พัวพันกับขบวนการลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ผิดกฎหมาย ขณะที่ จ.อ. ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งถูกมองว่าเป็นเครือข่ายของนายสุชาติ ถูกพาดพิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำบ่อดินเถื่อนที่สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในจังหวัดชลบุรี

นายสุชาติ ชี้แจงว่า การที่นายกฤชลงไปตรวจสอบพื้นที่ดินในจังหวัดชลบุรี ซึ่งผู้นำท้องที่หลายคนเป็นเพื่อนของตน ย่อมทราบดีว่าอะไรถูกหรือผิด หากพบว่ามีความผิดก็สามารถดำเนินคดีได้ พร้อมท้าให้นายกฤชกล้าสาบานเช่นเดียวกัน และย้ำว่าการกล่าวหาต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่การโจมตีลอย ๆ 

ขอยืนยันต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในรัฐสภาว่าบ่อดินที่ท่านเอ่ยถึงไม่ใช่ของผม

 

สำหรับข้อกล่าวหาที่เกี่ยวกับรถบรรทุก นายสุชาติชี้แจงว่า ไม่มีรถสิบล้อแม้แต่คันเดียว ส่วนอาชีพรถบรรทุกเป็นการว่าจ้าง จะไปที่ใดก็ขึ้นอยู่กับการจ้างงาน ส่วนบ่อดิน หากผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่ต้นทาง ไม่ใช่มาโยงกับเจ้าของรถบรรทุก

ถ้าเป็นเจ้าของรถบรรทุกผู้โดยสารสี่สิบคน ก็ไม่รู้ว่ามีใครพกอาวุธหรือยาเสพติดขึ้นมา รถบรรทุกที่ถูกจ้างก็ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าภายในตู้สินค้ามีสิ่งผิดกฎหมาย

นายสุชาติกล่าวต่อว่า ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด หากสถานประกอบการทำผิดก็ต้องถูกดำเนินคดี ส่วนการพาดพิงถึงอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก และในกรณีที่มีการระบุว่า รถบรรทุกของผู้ชำนาญการในเครือข่ายของตนไปวิ่งในชื่อ “มังกรน้ำเค็ม” นั้น

นายสุชาติอธิบายว่า ในพื้นที่ชลบุรี ผู้คนสามารถทำเสื้อหรือสติกเกอร์และนำไปติดได้โดยทั่วไป หากเป็นส่วยหรือสิ่งผิดกฎหมายจริง คงไม่มีใครนำรูปตนไปติดเผยแพร่ เพราะเรื่องเหล่านี้มักใช้รหัสมากกว่า

ข้อกล่าวหาว่ารถไปบรรทุกของมีพิษจากท่าเรือ ก็ต้องตั้งคำถามว่าผ่านด่านศุลกากรมาได้อย่างไร เพราะเจ้าหน้าที่ศุลกากรเป็นผู้ตรวจเอกซเรย์และจะรู้ดีที่สุดว่าสินค้าในตู้คอนเทนเนอร์คืออะไร 

ส่วนคดีเกี่ยวกับการเก็บผลไม้ป่าที่เชื่อมโยงกับคดีค้ามนุษย์ นายสุชาติอธิบายว่า เป็นคดีนอกราชอาณาจักร กรมสอบสวนคดีพิเศษและอัยการสูงสุดได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประเทศฟินแลนด์จนได้ข้อสรุปแล้วว่า ใครคือผู้ต้องหา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับข้าราชการกระทรวงแรงงาน

ขณะเดัยวกันข้อกล่าวหาที่มีการเรียกร้องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งไต่สวน ยืนยันว่า ผลการชี้มูลข้อกล่าวหาทั้งหมดได้สิ้นสุดแล้ว และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้อง หากไม่บริสุทธิ์ ก็คงไม่สามารถผ่านกระบวนการตรวจสอบขึ้นมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีได้

สิ่งใดถ้าผมทําผิดกฎหมาย ขอให้ดําเนินคดีได้ทุกเรื่อง แต่ขอให้อย่ากล่าวหากันลอยๆ เราลูกผู้ชายด้วยกัน มีอะไรสงสัย เจอกัน หน้าห้องน้ำก็เจอกันทําไมไม่ถาม

จากนั้น นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้ลุกขึ้นขอใช้สิทธิ์พาดพิง โดยยืนยันว่า ตนไม่ได้มีเจตนากล่าวหา เพียงแต่ตั้งคำถามและให้นายสุชาติได้ตอบ ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับสมาชิกสภาและประชาชนว่าจะเห็นอย่างไร พร้อมย้ำว่า ตนยังคงยึดสโลแกนของนายสุชาติยกขึ้นมาว่า “เพื่อนกันสำคัญเสมอ”