‘อนุทิน’ เมิน ‘เพื่อไทย’ ขู่ยุบสภาหาก ปชน.โหวตหนุนเป็นนายกฯ

01 ก.ย. 2568 | 09:30 น.
อัปเดตล่าสุด :01 ก.ย. 2568 | 09:31 น.

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเมินเสียงขู่พรรคเพื่อไทยจะยุบสภา หาก ปชน.โหวตหนุนเป็นนายกรัฐมนตรี ยันไม่ก้าวก่ายการตัดสินของพรรคประชาชน

KEY

POINTS

  • อนุทิน ชาญวีรกูล ไม่กังวลกรณีที่พรรคเพื่อไทยขู่จะยุบสภาหากพรรคประชาชนโหวตสนับสนุนตนเป็นนายกฯ โดยมองว่าเป็นสิทธิตามกฎหมาย
  • พรรคภูมิใจไทยยืนยันพร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคประชาชน และจะไม่ก้าวก่ายการตัดสินใจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
  • อนุทินเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสามัคคีกัน หลังจากมีข่าวว่าเพื่อไทยใช้คดีเก่ามาโจมตีเพื่อสกัดไม่ให้พรรคประชาชนสนับสนุนตน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า ไม่ขอคาดการณ์ ก้าวก่าย หรือก้าวล่วงต่อท่าทีของพรรคประชาชน (ปชน.) ในการโหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 

โดยพรรคภูมิใจไทยได้ยืนยันไปแล้วว่ายินดีที่จะยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคประชาชน ซึ่งจะทำให้ประเทศมีทางออกที่ดี

ส่วนความเชื่อมั่นที่จะให้พรรคประชาชน โหวตสนับสนุนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน ระบุว่า ไปเปิดเพลงของพี่แจ้ 

ขณะที่กรณีที่พรรคเพื่อไทยไปเจรจากับพรรคประชาชนโดยใช้คดีฮั้ว สว. และคดีเขากระโดงมาโจมตีพรรคภูมิใจไทย เพื่อไม่ให้โหวตสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทยนั้น ตอนนี้ต้องสามัคคีกันไว้ให้ดีที่สุด อย่าพยายามไปพูดอะไรให้แตกแยกกัน แค่แตกแยกมาถึงจุดนี้คนที่ทำให้เป็นแบบนี้ก็ทำร้ายบ้านเมืองมามากพอแล้ว

‘อนุทิน’ เมิน ‘เพื่อไทย’ ขู่ยุบสภาหาก ปชน.โหวตหนุนเป็นนายกฯ

ด้านกระแสข่าวการเติมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาล หลังมีข่าวพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ เตรียมโหวตสนับสนุนนายอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทินระบุว่า ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด

ส่วนกรณีที่มีแกนนำของพรรคเพื่อไทยพูดว่า หากพรรคประชาชนเลือกแคนดิเดตของพรรคภูมิใจไทยเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทยจะยุบสภาทันทีนั้น มองว่าเป็นการขู่ไม่ให้พรรคประชาชนจับมือกับภูมิใจไทยหรือไม่นั้น ต้องเรียนว่าการยุบสภาเป็นสิทธิตามกฏหมาย หากทำอะไรให้ถูกกฎหมาย ก็ทำได้หมด

ส่วนจะเป็นข้อได้เปรียบหรือไม่ ในการที่แคนดิเดตของพรรคภูมิใจไทยเดินทางไปพูดคุยกับพรรคประชาชนด้วยตัวเอง นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้ที่ประเมินคือผู้ที่ไปพบด้วย ซึ่งต้องให้เกียรติกัน ตนไปพบหัวหน้าพรรคไม่ว่าจะเป็นพรรคเล็กหรือพรรคใหญ่ หากไปได้ก็ต้องไป การให้เกียรติกัน จะทำให้การหารือมีบรรยากาศที่ดีขึ้น 

การบันทึกข้อตกลงต่าง ๆ ก็จะเป็นไปได้ด้วยผลดี ไม่มีทิฐิ เปิดเผยทุกอย่าง และไม่มีซ่อนเร้น ซึ่งคนที่รู้จักตนก็จะรู้ว่าตนเป็นคนที่จริงใจ และจริงใจมากเกินไปด้วย