'ชูศักดิ์' มองบวกศาลรธน. ชี้ชะตา 'แพทองธาร' ยันรัฐบาลไม่มีทางตัน

29 ส.ค. 2568 | 03:36 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ส.ค. 2568 | 03:42 น.

'ชูศักดิ์ ศิรินิล' มองบวก. คดีศาลรัฐธรรมนูญชี้ชะตา นายกฯ ’แพทองธาร ชินวัตร’ เชื่อศาลดูเจตนาเป็นหลัก ยันรัฐบาลไม่มีทางตัน มองปล่อยภาพ ‘ลุงป้อม-อนุทิน‘ ร่วมวงข้าวไร้นัยการเมือง

วันนี้ (29 สิงหาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย เปิดเผยถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนาของนายกมนตรี วันนี้ จะมีการเตรียมความพร้อมรับมืออย่างไร ว่า ไม่ได้มีการเตรียมการอะไร ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาล 

เมื่อถามว่ามีสัญญาณอะไรส่งมาแล้วหรือไม่ เนื่องจากมีการเลื่อนการแต่งตั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายตำรวจระดับสูง นายชูศักดิ์ ระบุว่า ทุกฝ่ายบอกว่าหากเจตนาดีต่อบ้านเมืองเป็นหลัก เพราะฉะนั้นก็คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องดี แต่หากถามตอนนี้ท้ายที่สุดก็เป็นเพียงคาดเดากันไปเพราะยังไม่รู้ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร แต่ฟังดูจากการวิพากษ์วิจารณ์ก็คิดว่าน่าจะดี

ส่วนในช่วงที่ผ่านมาระหว่างเจตนากับข้อกฎหมายมีคำวินิจฉัยใดที่ยึดเจตนาเป็นหลักหรือไม่ นายชูศักดิ์ ยืนยันว่า เจตนาเป็นเรื่องหลักอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นทางแพ่งหรือทางอาญา ซึ่งต้องดูว่าเจตนาเค้าทำเพื่ออะไร ไม่มีเจตนาร้ายต่อบ้านเมืองซึ่งมันก็เป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

ขณะที่เรื่องจริยธรรมซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกร้องจะเป็นเช่นไร นายชูศักดิ์ ขอให้รอดูศาลวินิจฉัย เพราะตนให้สัมภาษณ์หลายครั้งแล้ว ว่าจริยธรรมร้ายแรงมี 6 ข้อ ขอให้ไปย้อนดูว่าเข้าข้อใดบ้าง

เมื่อถามว่า ในฐานะเป็นอาจารย์สอนกฎหมาย ทุกคดีจะดูเป็นเจตนาเป็นหลัก รวมถึงคดีการเมืองด้วยหรือไม่ นายชูศักดิ์ ยอมรับว่า ครับ เพราะหากเรามีเจตนาดีต่อบ้านเมือง ซึ่งเจตนามี 2 อย่าง คือเจตนาดีและไม่ดี เพราะภาษากฎหมายเค้าเรียกว่าเจตนาจะให้ส่งผลอย่างไร ซึ่งหากดูจากการให้สัมภาษณ์ก็ชัดเจนว่าเค้าต้องการจะแก้ปัญหาบ้านเมือง

ส่วนที่มีการระบุว่าคลิปเสียงดังกล่าวเป็นเรื่องปกติในการเจรจาจะหยิบยกเป็นเหตุผลได้หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ต้องประมวลโดยรวมทั้งหมด แต่ถ้าต้องรอฟังศาลบ่ายนี้จะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร

ขณะที่เจตนาจะเป็นมาตรฐานในการพิจารณาความผิดใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า อย่าไปพูดว่าผิดหรือไม่ผิด แต่หมายความว่าที่พูด คือการวิเคราะห์ว่าที่ท่านพูดอย่างนั้นมันมีเจตนาร้ายต่อบ้านเมืองหรือไม่ 

อย่างไรก็ตาม หลังมีคำวินิจฉัยศาล สถานการณ์การเมืองไทยจะเป็นอย่างไรเพราะขณะนี้มีเสียงวิจารณ์หลายทิศทาง นายชูศักดิ์ ย้ำว่า ต้องดูคำวินิจฉัยจะออกมาเป็นอย่างไร

ส่วนมีการเตรียมมาตรการรับมือหากออกมาเป็นลบหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์จะเกิดขึ้นอย่างไรก็ว่ากันไป ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ตอนนั้น พร้อมยอมรับว่าแต่มีทางออก และเมื่อถามย้ำว่า จะไม่เจอทางตันใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ ย้ำหลายครั้งว่า ไม่มี

นอกจากนี้กรณีที่มีภาพ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร่วมกินข้าวกับ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ จะเป็นการส่งนัยทางการเมืองหรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ไม่มี อย่าไปคิดมากก็แล้วกัน ก่อนที่จะหัวเราะและเดินออกไป