วันที่ 25 สิงหาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงต่อกรณีที่ปรากฏคลิปและรายงานข่าวในสื่อหลายช่องทางเกี่ยวกับการไต่สวนพยานบุคคลเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ในคดีที่ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยการไต่สวนในวันดังกล่าว ศาลได้เรียกพยานบุคคล 2 ปาก ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ผู้ถูกร้อง และ นายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ มาสอบถามถ้อยคำ หลังการไต่สวน ศาลได้มีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าร่วมฟังการพิจารณานำข้อมูลไปเผยแพร่ หรือ บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายจนทำให้สาธารณชนเกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 38 วรรคหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ภายหลังมีการเผยแพร่คลิปเสียงและข้อความในลักษณะอ้างว่า มีตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกล่าวกับผู้ถูกร้องว่า “นั่งลงลูก” แต่ศาลยืนยันข้อเท็จจริงว่า คำพูดที่ถูกต้องคือ “นั่งลงครับ” เท่านั้น
ศาลรัฐธรรมนูญระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเป็นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จ และ บิดเบือนข้อเท็จจริง ของกระบวนการพิจารณาคดี อันอาจสร้างความเข้าใจผิดแก่ประชาชนทั่วไป และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลชี้ว่า การเผยแพร่บิดเบือนเข้าข่ายความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังอาจเข้าข่าย ละเมิดอำนาจศาล ตามมาตรา 38 และมาตรา 39 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 รวมถึงข้อ 10 และข้อ 11 ของข้อกำหนดศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2562
สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญยืนยันว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการบิดเบือน และเผยแพร่คลิปดังกล่าว เพื่อคุ้มครองกระบวนการพิจารณาคดีให้ดำเนินไปอย่างถูกต้องและเป็นธรรม
ละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ
1. “ละเมิดอำนาจศาล” คืออะไร
2. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
3. โทษตามกฎหมาย
ศาลรัฐธรรมนูญสามารถสั่งลงโทษผู้กระทำละเมิดอำนาจศาลได้ เช่น
4. กระบวนการดำเนินการ
1.ศาลหรือสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญจะรวบรวมพยานหลักฐาน
2.อาจเรียกผู้เกี่ยวข้องมาไต่สวนข้อเท็จจริง
3.หากเห็นว่ามีมูล ศาลสามารถมีคำสั่งลงโทษได้ทันที
4.การตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นที่สุด