รัฐบาลเตรียมส่งหลักฐานแจ้ง “สหรัฐฯ-จีน” หลังกัมพูชาละเมิดหยุดยิง

29 ก.ค. 2568 | 05:30 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ก.ค. 2568 | 05:37 น.

รัฐบาล เตรียมส่งเอกสารหลักฐานแจ้งต่อ “สหรัฐฯ-จีน” ในฐานะผู้สังเกตการณ์ หลังกัมพูชา ละเมิดหยุดยิงในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านครม. สั่งการกองทัพรักษาอธิปไตย ตรึงกำลังต่อ

วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย - กัมพูชา ล่าสุด ว่า ตั้งแต่ช่วงเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา รัฐบาลได้รับรายงานว่า ยังมีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในพื้นที่หลายจุด ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 กำลังสรุปรายละเอียดตั้งแต่เวลาเที่ยงคืน จนถึงเวลา 10.00 น. ของวันนี้ว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงในจุดใด แบบใด และมีพยานหลักฐานเช่นใดบ้าง 

ดังนั้นในช่วงเวลา 10.00 น. จึงมีการเลื่อนประชุมร่วมในพื้นที่ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 รวมทั้งกองทัพเรือที่ดูแลในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ของไทย ขณะที่การพูดคุยระหว่างกองทัพภาคที่ 4 และภาคที่ 5 ของกัมพูชา ซึ่งจะประชุมกันในวันนี้ ได้มอบหมายให้กองทัพบกพิจารณาว่าจะเลื่อนไปเมื่อใด 

ขณะที่การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์เรือนชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) วันนี้ ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ โดยรัฐบาลไทยจะทำเอกสารส่งไปให้ผู้สังเกตการณ์ คือสหรัฐอเมริกาและประเทศจีน ว่ายังมีการละเมิดการยิงหลังเที่ยงคืนในรูปแบบต่าง ๆ ด้วย

ส่วนกรณีที่สื่อของกัมพูชารายงานว่ากองทัพกัมพูชาหยุดยิงแล้ว ถือว่า เป็นสิทธิ์ที่กัมพูชาจะชี้แจงกรณีเช่นนี้ แต่กองทัพไทยยืนยันว่า ยังคงตรึงกำลัง และรักษาอธิปไตยอยู่อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามที่ประชุมครม.วันนี้ ได้เน้นย้ำให้กองทัพปกป้องอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนไทยอย่างเต็มที่ และตรึงกำลังจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นการดูแลอธิปไตย และดูแลประชาชนในพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา 

 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

ขณะเดียวกันที่ประชุมครม. ได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญว่า ให้กองทัพรักษาอธิปไตย และบูรณภาพแห่งดินแดนไทยอย่างเต็มที่และตรึงกำลังจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น พร้อมย้ำในจุดยืนการเรียกเอกอัครราชทูตไทยกลับประเทศ และส่งเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยกลับประเทศ 

รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามแนวชายแดน ส่วนการอพยพกลับขอให้ศบ.ทก. ที่จะลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อการตรวจสอบข้อมูลให้เรียบร้อย และมอบหมายให้ ศบ.ทก.จัดการประชุมอย่างต่อเนื่องและชี้แจงเหตุหารณ์ด่วนให้ประชาชนรับทราบต่อไป

“จริง ๆ แล้วเราเดินแนวทางกองทัพ อย่างสุภาพบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิบัติภารกิจ ทั้งทางอากาศ ทางบก หรือทางใดก็แล้วแต่ เราทำงานในลักษณะกองทัพ มีความเป็นสุภาพบุรุษทางทหาร จะเห็นได้ว่าเป้าหมายต่าง ๆ ของกัมพูชาในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เราไม่เคยลงในจุดพลเรือน แต่ในทางกลับกันเป็นที่ประจักษ์เป็นหลักฐานไปทั่วโลกว่าเราโดนกระทำอย่างต่อเนื่อง และด้วยการเจรจาเรายืนยันว่าเสรีภาพและสันติภาพ ย่อมเกิดขึ้นภูมิภาคอาเซียน” นายจิรายุ กล่าว

นอกจากนี้ การหารือกับนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน ไทยได้ยืนยันหลักการแห่งเสรีภาพและสันติภาพในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมเตรียมนำรายละเอียดล่าสุดเข้าสู่การประชุม ครม. ศบ.ทก. และ สมช. ในช่วงบ่ายด้วย

ส่วนในเรื่องของความเคลื่อนไหวด้าน IO และปฏิบัติการทางไซเบอร์ของกัมพูชาพบว่า ขณะนี้ความมั่นคงรายงานว่า IO ฝั่งกัมพูชาซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เปลี่ยนภารกิจจากการหลอกลวงประชาชน มาเป็นการปลุกปั่นให้คนไทยขัดแย้งกันเอง โดยมีการใช้บัญชีปลอมโจมตีมากกว่า 500 ล้านครั้งในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ขอให้ประชาชนช่วยกันตอบโต้ทางออนไลน์ เพื่อต่อสู้กับปฏิบัติการทางไซเบอร์ของกัมพูชา