เบรกด่วน! ประมูลคลาวด์ 2 กระทรวง ศธ.-อว. 4 หมื่นล้าน ส่อเอื้อเอกชน

30 มิ.ย. 2568 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :30 มิ.ย. 2568 | 08:49 น.

รัฐบาลสั่งชะลอประมูลโครงการใหญ่ด้านเทคโนโลยีการศึกษา กว่า 4 หมื่นล้านบาท ของ ศธ. และ อว. ส่อล็อกสเปกเอื้อเอกชน ขัดนโยบาย Cloud First สอบเชิงลึก ก่อนเคาะแนวปฏิบัติใหม่

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบาย Cloud First Policy ได้มีคำสั่งให้ ระงับขั้นตอนการประมูล 2 โครงการใหญ่ มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท ของหน่วยงานภายใต้ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นการชั่วคราว หลังได้รับข้อมูลร้องเรียนจาก มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน

การสั่งระงับครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจาก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 มูลนิธิเครือข่ายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนโดยตรงถึง นายประเสริฐ เรียกร้องให้ตรวจสอบความชอบธรรมของโครงการใน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้แก่

  • โครงการเช่าระบบคลาวด์ (6,834 VM): มูลค่า 2,800 ล้านบาท
  • โครงการจัดซื้อซอฟต์แวร์ + Learning Platform ระยะที่ 2: มูลค่า 1,330 ล้านบาท

โดยในคำร้อง ระบุชัดว่า การกำหนดสเปกที่เฉพาะเจาะจงและมีลักษณะตายตัว ทำให้การแข่งขันเสรีเป็นไปได้ยาก และ อาจเอื้อประโยชน์ให้ผู้ให้บริการเพียงรายเดียว ซึ่งเสี่ยงต่อการ “ล็อกสเปก” และการเรียกค่าตอบแทนโดยมิชอบ

ห้ามแยกประมูลคลาวด์รายกระทรวง

แหล่งข่าวในคณะกรรมการ Cloud First Policy ระบุว่า การจัดซื้อจัดจ้างบริการคลาวด์ของภาครัฐทั้งหมด ต้องดำเนินการผ่านระบบกลาง ตามมติคณะกรรมการที่ต้องการป้องกันการจัดซื้อซ้ำซ้อน ลดงบประมาณ และยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล

โดยปัจจุบัน คณะกรรมการได้ตั้ง อนุกรรมการด้านจัดซื้อจัดจ้างด้านไอที ขึ้นมาควบคุมกำกับโดยตรง ซึ่ง ห้ามทุกหน่วยงานแยกจัดซื้อหรือประมูลเอง หากไม่ได้รับอนุมัติจากกลไกกลาง

งบ ICT ศธ.–อว. ปี 69 รวม 4 หมื่นล้าน

จากการรวบรวมข้อมูลเอกสารงบประมาณ พบว่า 2 กระทรวงหลักด้านการศึกษามีแผนใช้จ่ายในโครงการเทคโนโลยีการศึกษารวมกันเกินกว่า 40,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดบางส่วนดังนี้

ศธ. : เช่า Tablet + ซิมการ์ด 14,655 ล้านบาท

ศธ. : เช่าคลาวด์ VM   2,800 ล้านบาท

ศธ.: Learning Platform Phase 2 จำนวน 1,330 ล้านบาท

ศธ.: โครงการ VR–AR / Smart Lab  432 ล้านบาท

อว. :เช่าคลาวด์ระดับอุดมศึกษา   5,413 ล้านบาท

ศธ.-อว. : โครงการอื่นๆ เช่น NEdNet, Synchrotron หลักพันล้านบาท

หลายโครงการอยู่ในระหว่างรอยื่นซอง หรือเปิด TOR และมีลักษณะ “กำหนดสเปกเทคโนโลยีตายตัว” ซึ่งทำให้ภาคประชาชนตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็น การล็อกผู้ให้บริการทางเทคนิคไว้ล่วงหน้า เพื่อจำกัดการแข่งขัน

ดัน IT Marketplace แทน TOR เฉพาะเจาะจง 

แหล่งข่าวระดับสูงจากกระทรวง ดีอีเอส เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังศึกษาแนวทางนำระบบ IT Marketplace มาใช้กับการจัดซื้อจัดจ้างไอทีทั้งระบบ โดยจะเปิดให้ผู้ประกอบการร่วมเสนอผ่านแพลตฟอร์มกลาง ภายใต้เงื่อนไขและมาตรฐานเดียวกัน

หากผลการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯ พบว่าโครงการของ ศธ. หรือ อว. มีลักษณะขัดมติคณะกรรมการ หรือมีข้อพิรุธ รัฐบาลอาจ สั่งยกเลิก TOR เดิมทั้งหมด พร้อมออกแนวปฏิบัติกลางใหม่ให้หน่วยงานราชการทุกแห่งปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

การสั่งระงับการประมูลครั้งนี้ นับเป็นสัญญาณสำคัญจากรัฐบาล ว่าจะไม่ปล่อยให้ “งบไอทีเพื่อการศึกษา” มหาศาล กลายเป็นสนามทุจริตแบบเงียบ ๆ ภายใต้คำว่า “นวัตกรรม”

ท้ายที่สุด โครงการด้านเทคโนโลยีควรเป็นประโยชน์แท้จริงต่อผู้เรียน มิใช่เป็นเพียงข้ออ้างเพื่อ “รีดงบ” หรือเอื้อผลประโยชน์แอบแฝงให้เอกชนบางกลุ่ม