วันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษาสำคัญในคุคดีโครงการจำนำข้าว โดยสั่งให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 10,028 ล้านบาท
ศาลเห็นว่านางสาวยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ไม่ได้ติดตามการระบายข้าวอย่างเต็มความสามารถ และเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการกขค.เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แม้จะมีหนังสือทักท้วงและข้อเสนะแนะจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเกี่ยวกับการทุจริตในโครงการ
ศาลระบุว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ "ละเว้นเพิกเฉยไม่ติดตามให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานผลความเสียหาย" และไม่ได้ติดตามตรวจสอบอย่างใกล้ชิดแม้จะทราบว่ามีความเสียหายเกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดเหตุทุจริต การระบายข้าวไม่ทัน และข้าวเน่าเสีย
ศาลถือว่าพฤติการณ์ดังกล่าวเป็น "การประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงที่ต้องรับผิดทางละเมิดต่อกระทรวงการคลัง"
อย่างไรก็ตาม สำหรับโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีนาปัง ศาลเห็นว่าเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ จึงไม่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชอบในส่วนนี้
จากการแจ้งทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2558 หลังพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พบว่านางสาวยิ่งลักษณ์มีทรัพย์สินรวม 612 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากช่วงที่พ้นตำแหน่งประมาณ 27 ล้านบาท
เงินสดและเงินฝาก
16 บัญชี มูลค่า 24 ล้านบาท (ปัจจุบันถูกกรมบังคับคดีอายัดไว้แล้ว)
การลงทุนและหลักทรัพย์
หุ้นและกองทุน 9 รายการ มูลค่ากว่า 115 ล้านบาท
อสังหาริมทรัพย์ - ส่วนใหญ่ของทรัพย์สิน
- ที่ดิน 14 แปลงในจังหวัดเชียาใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ และสมุทรปราการ มูลค่า 117 ล้านบาท
- โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 36 รายการ มูลค่า 162 ล้านบาท
ทรัพย์สินอื่น
- รถยนต์หรู 9 คัน ยี่ห้อเบนซ์ BMW แลนด์โรเวอร์ ปอร์เช่ และโฟล์กสวาเกน มูลค่า 22 ล้านบาท
- อัญมณีและเครื่องประดับ 57 รายการ มูลค่า 41 ล้านบาท
- นาฬิกาข้อมือ 9 เรือน มูลค่า 1.8 ล้านบาท
- กระเป๋าแบรนด์เนม 7 ใบ มูลค่า 2.1 ล้านบาท
เมื่อเปรียบเทียบทรัพย์สินทั้งหมดของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่ 612 ล้านบาท กับจำนวนเงินค่าเสียหายที่ศาลสั่งให้ชดใช้ 10,028 ล้านบาท พบว่ามีช่องว่างสูงถึงกว่า 16 เท่า หรือขาดไปเกือบ 9,400 ล้านบาท
ศาลมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ดังนี้
1. เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลัง ที่ 1351/2559 เฉพาะส่วนที่เกินกว่า 10,028,861,880.83 บาท
2. เพิกถอนการยึดอายัดทรัพย์สิน ที่เกินกว่าจำนวนเงินดังกล่าว
3. สั่งให้ดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินของสามี ให้กันส่วนทรัพย์สิน 37 รายการ และจัดทำบัญชีรับ-จ่าย ภายใน 60 วัน
คดีนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบของผู้บริหารระดับสูงในการดูแลโครงการของรัฐ และการต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการประมาทในการปฏิบัติหน้าที่