คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งสภาเทศบาล 2568 เช็กที่นี่

04 พ.ค. 2568 | 00:45 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2568 | 00:58 น.

คุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้งสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี 2568 และ การเตรียมความพร้อมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง การแจ้งเหตุไม่ไปเลือกตั้ง เช็กที่นี่

เหลืออีกไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี 2568 โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.กำหนดวันเลือกตั้งสมาชิกเทศบาลและนายกเทศมนตรีในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. ณ หน่วยเลือกตั้งที่มีรายชื่ออยู่

 

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ประชาชนจะสามารถใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งได้ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้

  1. มีสัญชาติไทย แต่ถ้าแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี
  2. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ในวันเลือกตั้ง
  3. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตเลือกตั้งมาแล้วเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง
  4. และคุณสมบัติอื่นตามที่กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด

 

การเตรียมความพร้อมของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องดำเนินการเตรียมพร้อมก่อนไปใช้สิทธิ ดังนี้

1.ตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

  •  ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 25 วัน
  •   ตรวจสอบรายชื่อได้ที่ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่เลือกตั้งหรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้งก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 15 วัน
  •  ตรวจสอบรายชื่อจากเอกสารที่แจ้งรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งมายังเจ้าบ้าน

2. การเพิ่มชื่อ – ถอนชื่อ

  • ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 10 วัน
  • หากพบว่าตนเองหรือผู้มีชื่อยู่ในทะเบียนบ้านของตนไม่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือเจ้าบ้านเห็นว่ามีชื่อบุคคลอื่นอยู่ในทะเบียนบ้านของตนโดยไม่ได้อาศัยอยู่จริงให้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่นเพื่อขอเพิ่มชื่อ – ถอนชื่อ พร้อมนำสำเนาทะเบียนบ้านและบัตรประชาชนหรือบัตรประจำตัวอื่นใดที่ทางราชการออกให้ไปแสดงด้วย

 

 

แผนเลือกตั้งสมาชิกเทศบาล 2568

การแจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

ผู้มีสิทธิเลือกตั้งใดที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ เนื่องจากมีเหตุอันสมควร ให้แจ้งเหตุที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่นที่ตนมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน โดยทำเป็นหนังสือซึ่งต้องระบุเลขประจำตัวประชาชน และที่อยู่ตามหลักฐานทะเบียนบ้าน ภายใน 7 วันก่อนวันเลือกตั้ง หรือภายใน 7 วัน นับแต่วันเลือกตั้ง ทำหนังสือยื่นต่อนายทะเบียนอำเภอหรือนายทะเบียนท้องถิ่น สามารถแจ้งด้วยตัวเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นไปยื่นแทน จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน หรือทางออนไลน์ ผ่านทางแอปพลิเคชัน Smart Vote หรือเว็บไซต์สำนักบริหารการทะเบียน https://boraservices.bora.dopa.go.th/election/abscauselocal/

 

เหตุจำเป็นที่ไม่อาจไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

  • มีกิจธุระจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องเดินทางไปพื้นที่ห่างไกล

  • เจ็บป่วยและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

  •  เป็นคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุและไม่สามารถเดินทางไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้

  • เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

  •  มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลจากที่เลือกตั้งเกินกว่า 100 กิโลเมตร

  • ได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตเลือกตั้ง

  • มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุอื่นที่ กกต. กำหนด

  • กรณีที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้แจ้งเหตุไว้แล้ว หากในวันเลือกตั้งเหตุดังกล่าวได้สิ้นสุดลง ผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งที่ตนมีสิทธิเลือกตั้งได้

หากไม่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งจะถูกจำกัดสิทธิ ดังนี้

1.     สมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. หรือ ส.ถ. หรือ ผ.ถ. หรือสมัครรับเลือกเป็น สว.
2.     สมัครรับเลือกเป็นกำนันและผู้ใหญ่บ้าน
3.     เข้าชื่อร้องขอให้ถอดถอน ส.ถ. หรือ ผ.ถ.
4.     ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง และข้าราชการรัฐสภาฝ่ายการเมือง
5.     ดำรงตำแหน่งรองผู้บริหารท้องถิ่น เลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการผู้บริหารท้องถิ่น ประธานที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น ที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น หรือคณะที่ปรึกษาผู้บริหารท้องถิ่น
 6.  ดำรงตำแหน่งเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาท้องถิ่น และเลขานุการรองประธานสภาท้องถิ่น

 


การถูกจำกัดสิทธิ กำหนดเวลาครั้งละ 2 ปี นับแต่วันเลือกตั้ง

การอำนวยความสะดวกแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุในการลงคะแนนเลือกตั้ง กกต. ได้จัดให้มีการอำนวยความสะดวกในการออกเสียงลงคะแนนแก่คนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุไว้เป็นพิเศษหรือจัดให้มีการช่วยเหลือในการออกเสียงลงคะแนนภายใต้การกำกับดูแลของ กปน. ในการช่วยเหลือดังกล่าว ต้องให้บุคคลนั้นได้ออกเสียงลงคะแนนด้วยตนเองตามเจตนาของบุคคลนั้น เว้นแต่ลักษณะทางกายภาพ ทำให้ไม่สามารถทำเครื่องหมายลงในบัตรเลือกตั้งได้ ให้บุคคลอื่นหรือ กปน. เป็นผู้กระทำการแทน โดยความยินยอมและเป็นไปตามเจตนาของคนพิการหรือทุพพลภาพ หรือผู้สูงอายุนั้น ทั้งนี้ ให้ถือว่าเป็นการออกเสียงลงคะแนนโดยตรงและลับ

ขั้นตอนการลงคะแนนเลือกตั้ง

1. ตรวจสอบรายชื่อ

  • ตรวจสอบรายชื่อ และลำดับที่จากบัญชีรายชื่อ ที่ประกาศไว้หน้าที่เลือกตั้ง

2.  ยื่นหลักฐานแสดงตนแสดงหลักฐาน

  • เช่น บัตรประจำตัวประชาชน (บัตรที่หมดอายุก็ใช้ได้) หรือ บัตรหรือหลักฐานที่ทางราชการหรือหน่วยงานของรัฐออกให้ที่มีรูปถ่ายและมีเลขประจำตัวประชาชน รวมถึงหลักฐานภาพอิเล็กทรอนิกส์ที่เปิดผ่านแอปพลิเคชันของหน่วยงานของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ ต่อ กปน. พร้อมลงลายมือชื่อหรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือในบัญชีรายชื่อ

3.รับบัตรเลือกตั้ง

  • ลงลายมือชื่อ หรือพิมพ์ลายนิ้วหัวแม่มือลงที่ต้นขั้วบัตรเลือกตั้ง รับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ได้แก่ บัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และบัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล

4. ทำเครื่องหมายกากบาท

เข้าคูหาลงคะแนนทำเครื่องหมายกากบาท X ลงในช่องทำเครื่องหมาย ดังนี้

  •  บัตรเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เลือกผู้สมัครได้หนึ่งคน
  •  บัตรเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล เลือกผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลได้ไม่เกินจำนวนสมาชิกที่ แต่ละเขตเลือกตั้งนั้นพึงมีหากไม่ต้องการเลือกผู้สมัครผู้ใด ให้ทำเครื่องหมายกากบาท X ในช่องไม่เลือกผู้สมัครผู้ใด แล้วพับบัตรเลือกตั้ง

5.หย่อนบัตรเลือกตั้งด้วยตัวเอง

  • นำบัตรเลือกตั้งที่พับเรียบร้อยแล้วหย่อนใส่ลงในหีบบัตรเลือกตั้งด้วยตนเอง.

ที่มา: