"สรรเพชญ"เสนอญัตติตั้งกมธ.ยกระดับทุเรียน-ร่างกฎหมายทุเรียนไทยยั่งยืน

28 ก.พ. 2568 | 07:19 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2568 | 07:26 น.

"สรรเพชญ"เสนอญัตติตั้งกรรมาธิการเพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาและยกระดับทุเรียนไทยอย่างเป็นระบบ พร้อมผลักดันร่างกฎหมายทุเรียนไทยยั่งยืน

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 นายสรรเพชญ บุญญามณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาและยกระดับทุเรียนไทยอย่างเป็นระบบ พร้อมผลักดันร่างกฎหมายทุเรียนไทยยั่งยืน 

โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มมาตรฐานคุณภาพของทุเรียนไทยให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นคง พร้อมทั้งสร้างกลไกในการกำกับดูแลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถรักษาสถานะการเป็นผู้ส่งออกทุเรียนอันดับต้น ๆ ของโลกได้อย่างยั่งยืน

นายสรรเพชญ ชี้ให้เห็นว่า แม้ทุเรียนไทยจะได้รับความนิยมในตลาดโลก โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นผู้นำเข้าหลัก คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 96% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมด แต่ยังขาดกฎหมายที่กำกับดูแลคุณภาพและมาตรฐานของทุเรียนอย่างชัดเจน 

ปัญหาหลักที่เกิดขึ้น คือ การเร่งเก็บเกี่ยวทุเรียนก่อนกำหนดเพื่อให้ทันกับความต้องการของตลาดส่งออก ส่งผลให้มีทุเรียนอ่อนเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก กระทบต่อชื่อเสียงของทุเรียนไทยในระยะยาว 

อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้กับเกษตรกรที่ตั้งใจผลิตทุเรียนคุณภาพ แต่กลับต้องเผชิญกับการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากกลุ่มผู้ค้าและล้งที่รับซื้อผลผลิตก่อนที่ทุเรียนจะสุกสมบูรณ์
นอกจากนี้ นายสรรเพชญ ยังเตือนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาตลาดจีนเป็นหลัก หากจีนมีมาตรการกีดกันทางการค้า หรือ หันไปนำเข้าทุเรียนจากประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนาม ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ทุเรียนไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดอย่างรุนแรง 

โดยปัจจุบัน เวียดนามก็ได้รับการอนุมัติจากจีน ให้นำเข้าทุเรียนแบบทางการแล้ว และสามารถขยายการส่งออกได้มากขึ้น ทำให้ไทยจำเป็นต้องเร่งพัฒนาคุณภาพและสร้างความหลากหลาย ในการส่งออก เพื่อกระจายความเสี่ยงไปยังตลาดอื่น เช่น สหรัฐอเมริกา ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มการนำเข้าทุเรียนไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายสรรเพชญ ยังเน้นย้ำว่า การพัฒนาทุเรียนไทยให้มีความยั่งยืนจำเป็นต้องครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนให้เกษตรกรใช้เทคนิคการเพาะปลูกที่ดีขึ้น การพัฒนาสายพันธุ์ที่มีคุณภาพ การปรับปรุงระบบขนส่งให้มีประสิทธิภาพ

รวมไปถึงการวิจัยเพื่อส่งเสริมการแปรรูปทุเรียนให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่ม เช่น ทุเรียนกวน ขนมขบเคี้ยวจากทุเรียน หรือผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้มากขึ้น และลดการพึ่งพาการส่งออกเฉพาะทุเรียนสด

"ถึงเวลาแล้วที่เราต้องให้ความสำคัญกับทุเรียนไทยอย่างจริงจัง เราต้องมีแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนเพื่อให้ทุเรียนไทยคงคุณภาพและความเป็นเอกลักษณ์ในตลาดโลก การตั้งกรรมาธิการฯ ครั้งนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการวางรากฐานให้ทุเรียนไทยเติบโตอย่างยั่งยืน และสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโลกต่อไปได้และเกิดการผลักดันในเชิงนโยบาย และนำไปสู่การออกกฎหมายที่สามารถดูแลอุตสาหกรรมทุเรียนไทยได้อย่างครบวงจรในอนาคต" นายสรรเพชญ กล่าว