และแล้วที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรก็ลงมติเห็นชอบ “แพทองธาร ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เป็น “นายกฯ ชินวัตร” คนที่ 3 ต่อจากนายทักษิณ ชินวัตร “นายกฯผู้พ่อ” และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร “นายกผู้เป็นอา”
เป็นการสิ้นสุดการรอคอยกว่า 48 ชั่วโมง หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่30
สำหรับไส้ใน 319 เสียงที่เห็นชอบ-เห็นด้วยให้ “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็น “นายกรัฐมนตรีหญิงคนที่สอง” ของประเทศไทย ดังนี้
ผู้เห็นชอบ 319 คะแนน แบ่งออกเป็น “พรรคร่วมรัฐบาลขั้วเดิม” จำนวน 11 พรรค 310 เสียง ประกอบด้วย
พรรคเพื่อไทย 139 เสียง พรรคภูมิใจไทย 70 เสียง พรรคพลังประชารัฐ 39 เสียง พรรครวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง พรรคชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
พรรคประชาชาติ 8 เสียง พรรคชาติพัฒนา 3 เสียง พรรคไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคท้องที่ไทย 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ 1 เสียง
ขณะที่ “พรรคฝ่ายค้านเดิม” อย่างพรรคไทยสร้างไทย 6 คน ลงคะแนน “เห็นด้วย” ทั้งหมด ได้แก่
รวมถึง “พรรคร่วมฝ่ายค้านเดิม” อี ก 3 พรรค ที่ยกมือเห็นชอบ “นายกรัฐนตรีคนที่ 31” ได้แก่ พรรคประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง พรรคใหม่ 1 เสียง และ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน 1 เสียง
ขณะที่เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ประกอบด้วย พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง ไม่มีแตกแถว ลงคะแนน “งดออกเสียง” ตามมติที่ประชุมของ สส.พรรคประชาธิปัตย์
ส่วนนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่ 2 งดออกเสียงเช่นเดียวกัน ในฐานะนั่งอยู่บนบัลลังก์ ต้องวางตัวเป็นกลาง
ด้านผู้ไม่เห็นชอบ 145 คะแนน ประกอบด้วย พรรคประชาชน หรือ อดีตพรรคก้าวไกล 143 เสียง กับอีก 2 พรรค พรรคละ 1 เสียง ได้แก่ นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม และนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม.พรรคไทยก้าวหน้า
ส่วน “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แจ้งลาประชุมล่วงหน้า